เมื่อประมาณเดือนที่แล้วมีข่าวว่า Honda เรียกรถสามรุ่นกลับไปเปลี่ยนสปริง 1 ตัว ซึ่งเป็นชิ้นส่วนเล็กๆในเครื่องยนต์ รถยนต์รุ่นที่โดนแจ็คพ็อตก็คือ Jazz City และ Freed เพราะใช้เครื่องยนตัวเดียวกัน แต่ว่า ไม่โดนทุกคัน มีเพียงบางล็อตเท่านั้น ซึ่งผมอยู่ในล็อตที่โดนเรียกครับ
การประกาศประกาศออกทางอินเทอเน็ต และผมไม่รู้ว่าผมอยู่ในล็อตที่โดนเรียกไหม? ทีแรกก็ลุ้นว่าจะไม่โดน แต่พอเมื่อสองวันก่อนเอารถเข้าศูนย์เพื่อเช็คระยะ 30000 กิโลเมตร พนักงานในศูนย์ก็ตรวจสอบเลขเครื่องยนต์แล้วแจ้งว่า ต้องเปลี่ยนสปริงวาล์วครับ
พนักงานอธิบายวิธีเปลี่ยนไว้ละเอียด สรุปแล้วเป็นงานที่ใช้เวลา ต้องรื้อเครื่องเยอะ ต้องรอเครื่องยนต์เย็นและใช้เวลา 3 ชั่วโมงต่อเนื่อง ดังนั้น ต้องนัดคิวล่วงหน้า วันที่ตรวจเช็คระยะ 30000 กิโลเมตรผมจึงทำได้แค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง เท่านั้น การเปลี่ยนสปริงค์ต้องนัดในอีกห้าวันถัดไป
การเข้าเช็ครอบนี้เป็นตามกำหนดระยะทาง และได้ทำการบ่นเพื่อขอเคลมอาการเสียงพลาสติกกรอบในห้องโดยสาร เพราะในช่วงประมาณสามเดือนที่ผ่านมาผมสังเกตว่า เสียงพลาสติกหรือยางขอบประตูที่กั้นระหว่างประตูกับตัวถังรถยนต์มีอาการส่งเสียงดังเวลามีการเคลื่อนไหวหรือสั่นสะเทือน อาการคล้ายๆกับยางแข็งตัวแล้วทำให้เกิดการเบียดตัวไปมาทำให้มีเสียงดังผิดปกติ บอกช่างให้รับทราบ ช่างรับปากจะดูให้
ส่งรถตอนสายๆสิบโมงเช้านิดหน่อย บ่ายสามครึ่งพนักงานโทรมาแจ้งว่าทำเสร็จแล้วไปรับรถได้ ตอนไปรับก็ตรวจสอบความเรียบร้อย ไขน็อตครบทุกตัวไหม เพราะช่วงเดือนที่ผ่านมา ในเว็บบอร์ดพันทิพย์ดอตคอม ห้องรัชดา มีกระทู้บ่นและต่อว่ากรณีศูนย์บริการบกพร่อง ลืมไขน็อตให้ลูกค้าหลายยี่ห้อ หลายคันมาก พอถึงคิวผมต้องเข้าศูนย์เลยวิตกจริตนิดหน่อย ตอนรับรถเลยเดินดูล้อโดยรอบ แต่ก็ไม่พบอาการผิดปกติ
เรื่องเสียงรบกวนของยางขอบประตูช่างได้ทำการแก้ไขโดยการทาน้ำมันหล่อลื่นลงไปที่ตัวยาง เพื่อปรับสภาพผิวยางให้มีความอ่อนตัว เสียงหายไปสนิทเลย เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้รถยนต์ก็ต้องใช้วาสลีน หน้าหนาวผิวแตกเลยส่งเสียงดัง
ตอนนี้รถอยู่ในสภาพเหมือนใหม่ เงียบสนิท เครื่องยนต์เดินเรียบ อัตราการกินน้ำมันอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ก็คือ ขับเพลินๆได้ 11-12 กิโลเมตรต่อลิตร ขับทางไกลได้ 15 กิโลเมตรต่อลิตร ขับแบบงกๆพยายามประหยัดที่สุดจะทำได้ 18 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ว่าต้องขับช้าลงและอาจจะทำให้รถคันอื่นรำคาญได้
ประมาณสัปดาห์ที่แล้วอีกเช่นกัน อากาศในประเทศไทยเย็นลงอย่างกระทันหัน เมื่อวาน 30 องศาเซลเซียสอยู่ดีๆ วันรุ่งขึ้นตื่นมากลายเป็น 18 องศา ยิ่งกว่าหน้าหนาวที่ผ่านมาทุกฤดู กรุงเทพก็หนาวได้ Freed ได้ทำหน้าที่ให้ประทับใจอีกหนึ่งอย่างคือการเปิดฮีทเตอร์ เพราะแอร์ในรถ Freed สามารถตั้งเป็น Auto ได้ ผมเลยตั้งเป็น Auto 25 องศา ผลก็คือ รถไม่ทำความเย็น แต่เปลี่ยนเป็นทำความร้อนแทน อากาศข้างนอกเย็นจนผมต้องหาเสื้อกันหนาวมาใส่ แต่อยู่ในรถมันเย็นกำลังสบายเพราะได้ระบบฮีทเตอร์มาช่วย เป็นเรื่องดีๆอีกเรื่องหนึ่งในรถคันนี้
หนาวจนหมาที่บ้านยืนสั่น ต้องไปผ้ามาห่มให้ขนาดนี้
เบาะนั่งตอนขับรถตอนนี้ผมชินแล้ว ปรับตัวได้ ไม่เมื่อยหลังอีกต่อไป กลายเป็นรถที่รู้สึกถูกใจมากยิ่งขึ้น ยิ่งกว่าเดือนแรกเสียอีก แม้ว่าสมรรถนะจะสู้รถเก๋งไม่ได้ แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะเอารถคันนี้ไปอัดแข่งกับใคร หรือเอาไปดริฟท์เหมือนในหนัง เลยไม่ได้เดือดร้อนกับอัตราเร่งที่ต่ำกว่ารถเก๋ง ความรู้สึกดีที่ขับรถคันนี้คือมันไม่อึดอัด ห้องโดยสารกว้างขวางโดยที่ตัวรถยังไม่ใหญ่เกินไป ถ้ารีบขับหรือต้องการทำเวลาอาจจะต้องใช้รถเก๋งเครื่องแรงๆ แต่ถ้าไม่รีบ หรือต้องใช้เวลาทนรถติดนานๆ ผมว่าคันนี้น่าใช้กว่า
