palio ปาลิโอ เขาใหญ่ สวยแต่รูปจูบไม่หอม

วันที่กรุงเทพเร่ิมมีอากาศเย็นสบาย คล้ายๆว่าหน้าหนาวมาถึงแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นลมหนาวแท้ๆ หรือเป็นความเย็นจากภาวะน้ำท่วมเกือบทั่วประเทศ ผมก็เลยแวะไปเดินเล่นที่ ปาลิโอ สถานที่ช็อปปิ้งแห่งใหม่ที่สีสันสวยบาดใจ ณ เขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติที่เป็นมรดกโลก

ระหว่างทางเลี้ยวเข้าไปในเขาใหญ่ ก็เห็นการทำถนนสองข้างทาง ผมเคยได้ยินข่าวว่ามีข้าราชการหวังดีถางป่าริมถนนเพื่อขยายถนนให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ ผมไม่รู้ว่าจุดที่เห็นเป็นจุดที่เป็นข่าวหรือไม่ ขับรถผ่านบริเวณสองข้างทางที่มีร่องรอยและกำลังก่อสร้าง ก็นึกไปตามเหตุการณ์ ถามคำถามอยู่ในใจ ใครกันที่ อยากได้ถนนกว้างๆ นักท่องเที่ยวแบบไหนอยากได้ถนนมากกว่าป่า ถ้าถนนกว้างกว่าที่เห็น มันก็อาจจะกลายเป็นแนวจอดรถ สุดท้ายก็วิ่งกันเลนเล็กๆอยู่ดี

ร้านค้า รีสอร์ท โรงแรม ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ ก็มีตลอดสองข้างทาง พอไปถึง ปาลิโอ ผมไปครั้งนี้เป็นครั้งแรก ผมไม่เห็นป้ายแสดงชื่อเลย เห็นแต่ว่าเป็นตึกสีสันสวยดี แต่ไม่เห็นป้ายบอกว่าถึงปาลิโอแล้ว เกือบจะขับเลยไปซะแล้ว

เลี้ยวเข้าไปมีที่จอดรถบริการ คิดคันละยี่สิบบาท เป็นราคาที่ไม่แพง เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะจะได้ทำให้มีเงินไปจ้างพนักงานมาดูแล มาโบกรถ มาอำนวยความสะดวก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ที่นี่ยังไปไม่ถึงระดับนั้น เพราะผมก็ไม่เห็นว่าจะมีพนักงานมาอำนวยความสะดวกเลย หาที่จอดกันเอง มีน้ำขังนิดหน่อย ไม่น่าจะเป็นเพราะน้ำท่วม น่าจะเป็นเพราะการก่อสร้างบางส่วนกำลังดำเนินอยู่ การระบายน้ำบางจุดก็เลยยังไม่เรียบร้อย ผมจอดรถอยู่บริเวณที่เปียกน้ำนิดหน่อย ไม่เป็นไร เพราะรถไม่ได้ล้างมาหลายวันแล้ว

ตึกสวยมาก สวยชวนถ่ายรูป ผมได้รูปสีสวยเยอะดี แต่ก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากภาพที่เห็นตามอินเทอเน็ต นอกจากตึกที่จัดวางให้ดูสวยแล้ว คนมาเที่ยวเยอะมาก คนเยอะจนผมรู้สึกว่าผมไม่อยากเที่ยวที่นี่เลย แต่ละคนเดินดู เดินถ่ายรูป ไม่เห็นมีใครซื้อของเลย ผมรู้สึกสงสารคนขายของในนี้อยู่เหมือนกัน เพราะผมก็เดินดู ไม่ได้ซื้อของอะไร

โปสการ์ดใบละห้าสิบบาท ผมซื้อไม่ลงเลย ของกินต่างๆไม่ได้ถามราคา แต่ผมก็เลือกกินร้านสเต๊ก เพราะเห็นว่าเป็นร้านที่ไม่มีคนเข้าเลย น่าจะสงบดี รสชาดอาหารอร่อยมาก เป็นสต๊กหมูที่เนื้อแน่นนุ่มกำลังน่ากิน ผมไม่เคยกินเนื้อสภาพแบบนี้เลยในกรุงเทพ ราคาอาหารในร้านนี้เฉลี่ยประมาณ 150-200 บาทต่อจาน

ก่อนจะแวะกิน ผมเดินเล่นเพื่อถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย เดินไปดูบริเวณฟู้ดเซ็นเตอร์ กะว่าจะไปดูร้านขายอาหารของเพื่อนที่เขามาเช่าพื้นที่ขายเอาไว้ เพื่อนผมขายขนมจีน แต่ก็หาไม่เจอว่ามีร้านไหนขายขนมจีน เลยถามพนักงานที่นั่งเฝ้าอยู่ในฟู้ดเซ็นเตอร์ ถามเขาไปว่า “ที่นี่มีฟู้ดเซ็นเตอร์กี่จุดครับ” เพราะหาร้านเพื่อนไม่เจอ ก็คิดว่าอาจจะอยู่จุดอื่น พนักงานตอบมาว่า ก็มีที่นี่ที่เดียวแหละ แล้วก็มีร้านอาหารข้างๆเป็นสเต๊ก ไม่มีหางเสียง หน้าตาบอกบุญไม่รับ ผมฟังแล้วรู้สึกว่า ถ้าผมเป็นคนดูแลที่นี่ผมอยากจะไล่พนักงานคนนี้ออกทันที ณ วินาทีนี้เลย เอาคนแบบนี้มาเฝ้าได้ไง ไร้มารยาทแบบนี้น่าจะเอาไปทำงานอย่างอื่นที่ไม่ต้องพูด ช่างมัน ช่างมัน ช่างหัวมัน

อากาศเย็นสบายทำให้การเดินเล่นไม่หงุดหงิด แต่จำนวนคนเยอะแบบนี้ผมไม่อยากมารอบสองแล้ว ประเทศเรามันขาดแคลนแหล่งท่องเที่ยวกันขนาดนี้เลยหรือ ที่นี่ทำตึกได้สวยแปลกตาจริงผมยอมรับ แต่มันก็เป็นแค่ของทำปลอมขึ้นมา มันไม่ได้เป็นประวัติศาสตร์ ไม่ได้เป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ได้มีความหมาย ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้อยากรู้ แค่ก้อนหินก้อนปูนสะท้อนแสงแดดมาเข้าตาได้เท่านั้นเอง ความขุ่นมัวทั้งหมด มันมาจากพนักงานฟู้ดเซ็นเตอร์คนนั้นคนเดียวจริงๆ

ภาพสีสันสวยๆที่ผมถ่ายมา ผมหมดอารมณ์อยากเอาขึ้นเว็บไปซะแล้ว ไม่อยากเป็นอีกแรงที่ช่วยโปรโมทปาลิโอ ถ้าไม่ใช่เพราะมีรูปแฟนอยู่ในภาพ ผมก็คงลบทิ้งไปแล้ว เซ็งอย่างแรง

ถ้ามีใครสักคนชวนผมไปปาลิโออีกที ผมจะเลือกไปเดินเล่นวัดพระแก้ว วัดเบญจมบพิตร และตึกเก่าๆในเกาะรัตนโกสินทร์แทน ปล่อยให้คนชวนไปถ่ายที่ปาลิโอให้พอ แล้วค่อยนัดเอารูปมาแบ่งกันดู ผมมั่นใจว่าภาพที่ผมได้ จะมีความหมาย มีคุณค่า มากกว่า รวมไปถึงอาหารที่หลากหลาย และราคาย่อมเยากว่า

ถ่ายรูปพระเครื่องตอนที่ 2

หลังจากที่ถ่ายรูปเหรียญพระแบบโลหะมันวาวไปแล้วในตอนทีึ่ 1 ผมก็พบว่าภาพเหรียญโลหะมันคมชัดดี แต่สีสันไม่ไม่เหมือนการมองด้วยตาเปล่า โลหะจะมีความมัน และความมันก็สะท้อนกับสิ่งแวดล้อมอื่นๆจนเห็นเป็นสีดำ ผมเข้าใจว่ามนสะท้อนกับเพดานด้านบน ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่โดนแสงแฟลช ทำให้มันได้ภาพสะท้อนมืดๆอยู่บนผิวโลหะ เลยมองเห็นเหมือนเป็นสีเข้มๆดำๆ

อย่างภาพตัวอย่าง ตรงกลางเหรียญควรจะเป็นโทนสีเหลือง กลับกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ เป็นปัญหาเงาสะท้อนชนิดหนึ่ง ใครที่ไม่เคยเห็นขั้นตอนการถ่ายภาพวัตถุมันวาวจะไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ต้องให้คนที่เคยถ่ายภาพมาอธิบายถึงจะรู้ที่มาที่ไป ตอนผมหัดถ่ายภาพกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านก็อธิบายหลักการถ่ายภาพวัตถุมันวาวเอาไว้ นั่นคือจะต้องถ่ายในมุ้ง หรือในเต๊นท์

ผมวิเคราะห์ว่า การมีเต๊นท์หรือมุ่งมาคลุมวัตถุมันวาวเอาไว้ จะทำให้ภาพของผนังเต๊นท์ไปปรากฏอยู่บนผิววัตถุ การมีพื้นที่สีขาวเยอะๆไปสะท้อนให้เกิดภาพบนผิดของวัตถุมันวาวจะทำให้สีที่ปรากฏขึ้นเป็นการผสมระหว่างผิววัตถุกับผนังเต๊นท์ ดังนั้นถ้าเราทำให้วัตถุอยู่ในพื้นที่ห้อมล้อมด้วยสีขาวทั้งหมด ภาพสะท้อนก็จะเป็นสีขาว ก็คือเป็นการทำให้สีของวัตถุสว่างขึ้นนั่นเอง อย่า อย่าเพิ่ง งง

ผมไม่มีเต๊นท์ ก็เลยอาศัยว่าถ่ายในขวดน้ำผ่าครึ่ง เหมือนตอนที่แล้ว แต่เพิ่มเติมการปิดด้านบนด้วยกระดาษขาวมาคลุมไว้ ผมติดกระดาษขาวเข้าไปกับเลนส์ แล้วก้มลงไปถ่ายภาพในขวด กระดาษแผ่นจะทำหน้าที่เหมือนฝากระป๋อง คลุมกระป๋องเอาไว้ทั้งหมด ทำให้วัตถุเหมือนอยู่ในเต๊นท์

ซึ่งก็จะให้ผลลัพธ์เป็นแบบภาพนี้

แบ็คกราวน์ไม่เหมือนเดิมเพราะวางกระดาษแข็งลงไปบนพื้นด้วย

doctor portrait

มีงานด่วนให้ไปถ่ายภาพคุณหมอ เป็นคลีนิคเกี่ยวกับแอนไทเอจจิ้ง หรือ คลีนิคชะลอความแก่ ใครไม่อยากแก่ต้องแวะมาใช้บริการคลีนิคประเภทนี้

ได้รับการติดต่อตอนสามทุ่ม วันรุ่งขึ้นก็ไปถ่ายเลย ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ส่วนใหญ่เป็นการรอคุณหมอซะมากกว่า อุปกรณ์ที่เตรียมไปก็มี กล้อง canon 5d เลนส์ tamron 28-75 f2.8 ตัวส่งสัญญาณแฟลชไร้สาย แฟลชสองตัวเป็น nikon sb-25 และ sb-26 ขาตั้งแฟลช 2 ตัว ขาตั้งกล้อง manfrotto และร่มสีขาว 2 ตัว

สาเหตุที่ใช้แฟลชนิคอนก็เพราะว่า แฟลชของนิคอนมีระบบ stand by ที่ฉลาดกว่า ก็คือ เมื่อไม่ได้ใช้งาน 1 นาที แฟลชก็จะเข้าสู่โหมด stand by และเมื่อกดสั่งให้แฟลชทำงานอีกครั้ง แฟลชก็จะติดขึ้นมาทันที ไม่เหมือนแฟลของ canon ที่เข้าโหมด stand by แล้วจะต้องปิดและเปิดใหม่เท่านั้น ไม่สามารถกระตุ้้นด้วยคำสั่งยิงแฟลขได้

ภาพที่ถ่ายภายในห้องตรวจจะไม่ใช้ร่มร่วมด้วย เพราะว่าสภาพห้องค่อนข้างแคบ แต่ผนังและเพดานเป็นสีขาว เลยใช้ยิงสะท้อนเข้ากับกำแพงแทน ซึ่งก็ให้คุณภาพแสงที่พอใช้ได้

จากนั้นก็ออกมาถ่ายด้านนอก

มาเพิ่มเติมเนื้อหาบางส่วน
ในห้องที่ถ่ายภาพเดี่ยวทีละคน จัดแสงโดยการใช้แฟลชสองตัวยิงเข้าผนังฝั่งตรงข้ามกับแบบทั้งหมด

ตอนถ่ายผมยืนหันหลังให้กับจอทีวี แบบอยู่ด้านหน้าผม ไฟจะสะท้อนผนังแล้ววิ่งเข้าสู่แบบเหมือนกับเป็นการจัดไฟซ้ายและขวา ยิง 45 องศาเข้าไป

สุดยอด crm แบบบ้านๆ

เมื่อสักประมาณสองเดือนที่แล้วมีลูกค้ารายหนึ่งโทรมาสั่งพิมพ์งาน เป็นงานที่เขาเคยพิมพ์มาแล้ว คุยไปคุยมาก็พอจะรู้ข้อมูลว่าเป็นสินค้าอะไร และลูกค้าชื่ออะไร ลูกค้าท่านนี้ต้องการจะสั่งพิมพ์ซ้ำ บอกว่าขอราคาเดิมได้ไหม โรงพิมพ์ก็แบ่งรับแบ่งสู้ว่า ขอไปค้นประวัติก่อนว่าเคยสั่งพิมพ์จำนวนเท่าไร ราคาเท่าไร

หายังไงก็หาประวัติไม่เจอ เลยถามแม่ แม่ก็บอกว่าพอจะนึกออก แล้วแม่ก็ไปหาประวัติจากแฟ้มเก่าๆหลายๆอัน แล้วก็หยิบกระดาษแผ่นนี้ออกมา

กระดาษใบนี้เป็นประวัติการขายสินค้าตัวที่กำลังค้น ลงวันที่ ลงยอดสั่งพิมพ์และราคาขายเอาไว้ ดูจากวันที่ก็ทำให้รู้ว่าเขาสั่งไปเมื่อสิบปีที่แล้ว วันนี้ขอสั่งซ้ำคงให้ราคาเก่าไม่ได้ เพราะว่าต้นทุนสินค้าแพงขึ้นทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกระดาษแพงขึ้น น้ำมันแพงขึ้น ค่าแรงแพงขึ้น โทรไปบอกราคาใหม่กับลูกค้า คุณลูกค้าก็ไม่ได้โวยวายแต่อย่างใด เพราะลูกค้าก็จำไม่ได้ว่าเคยสั่งด้วยราคาเท่าไร

ยินดีที่ลูกค้ายังอยู่ในธุรกิจเดิม แสดงว่าเขาก็พออยู่ได้ โรงพิมพ์จะอยู่ได้ก็ต้องทำให้ลูกค้าอยู่ได้ด้วย ปรับราคานิดหน่อยตามเวลาที่เปลี่ยนไปไม่ถือเป็นการเอาเปรียบ แต่ที่น่าทึ่งก็คือ แม่เก็บข้อมูลได้ดีสุดยอด ถ้าบริการลูกค้าได้แบบนี้ทุกราย โรงพิมพ์น่าจะมีลูกค้าชั่วชีวิต

และผมยังไม่มั่นใจว่าถ้าผมบันทึกข้อมูลเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ผมจะสามารถหามันออกมาได้ในเวลาเพียงสิบนาทีหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ ข้อมูลอาร์ตเวิร์คบางตัวของลูกค้าบางรายผมก็หาไม่เจอแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าผมหาไม่เก่ง หรือผมเก็บไม่เก่ง หรืออีกทางหนึ่งก็เป็นเพราะข้อมูลเสียหายไประหว่างการก้อปปี้ไฟล์ไปมาตอนเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ให้ใหญ่ขึ้น การมีแบ็คอัพเป็นฮาร์ดก็อปปี้เป็นความแน่นอนอย่างหนึ่ง ถ้าไม่เกิดไฟไหม้ ข้อมูลกระดาษก็ยังคงอยู่ไปนานหลายสิบปีแน่นอน

ถ่ายรูปพระเครื่อง

การถ่ายรูปพระเครื่องถือเป็นงานถ่ายภาพมาโครประเภทหนึ่ง หลักการถ่ายภาพแนวมาโครก็มีรูปแบบที่ค่อนข้างชัดเจน คือใช้เลนส์มาโคร ใช้ขาตั้ง ใช้ระบบแฟลชเพื่อความสะดวก จะถ่ายตอนกลางวันหรือกลางคืน แสงของสภาพแวดล้อมก็จะไม่มีผลต่อภาพ

โจทย์การถ่ายภาพพระเครื่องโดยเฉพาะเหรียญโลหะมันวาวเป็นโจทย์ที่เพื่อนคนหนึ่งให้ไว้ เพราะว่าที่ผ่านมามีปัญหาว่าเขาไม่สามารถถ่ายให้ภาพชัดและสีสวยได้ ผมฟังแล้วก็นั่งนึกถึงวิธีการจัดแสง พอรับปากได้ตัวอย่างเหรียญโลหะมา ก็เอามาลองจัดไฟตามแบบที่เคยนึกเอาไว้

การถ่ายของมันวาวควรจะถ่ายในสภาพที่มีวัสดุสีขาวห่อหุ้มเอาไว้ ผมเลยนึกถึงขวดพลาสติกขนาดใหญ่ เนื้อขาวขุ่น เอามาตัดด้านบนออกแล้วก็ยิงแสงแฟลชเข้าไปด้านข้างขวด วัตถุที่อยู่ในขวดก็จะได้แสงสว่างที่นุ่มนวล กล้องถ่ายภาพจะถ่ายจากด้านบน เพื่อบันทึกภาพในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นภาพที่จะให้รายละเอียดของพระเครื่องหรือเหรียญโลหะที่ครบถ้วน นึกแล้วก็จัดสภาพตามนี้

ตัวเลนส์ใช้ ef100 macro f2.8 แฟลชใช้ nikon sb25 และ sb26 ส่งสัญญาณแฟลชด้วยทริกเกอร์ไร้สาย ค่าแสงที่ลองถ่ายอยู่ที่ f16 ความเร็วชัตเตอร์ 1/125 วินาที ตอนถ่ายภาพก็ค่อนข้างยาก เพราะว่ากล้องต้องวางในแนวดิ่ง เลนส์ชี้ลง แบบนี้ต้องใช้ขาตั้งราคาแพงเท่านั้น เพราะขาตั้งราคาถูกไม่สามารถจัดระนาบกล้องให้ถ่ายแนวดิ่งได้ ภาพออกมาตามนี้

ลองเอากระดาษมารองด้านหลังของวัตถุดู เพื่อเพิ่มฉากหลังให้มีลวดลายอื่่นๆแทนที่จะเป็นเนื้อพลาสติก

ผมดูภาพแล้วก็ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ แม้ว่าความคมชัดของภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ชัดเพียงพอ แต่สีสันยังไม่สวย ยังไม่สามารถบอกว่าภาพนี้เป็นภาพที่สวยได้ เลยลองจัดแสงแบบอื่นดูบ้าง ก็เลยหาอุปกรณ์ใกล้ตัวชิ้นอื่นๆที่น่าจะพอใช้ได้มาลองดู ก็เลยลองกับ ring flash ดู

การใช้ Ring flash จะต้องให้เลนส์ถ่ายภาพอยู่ในพื้นที่ของวงแหวน ผมก็เลยจัด ring flash ไปต่อกับแฟลช nikon sb-25 แล้วใช้ตัวทริกเกอร์เป็นตัวส่งสัญญาณ วางวงแหวนไว้ในแนวราบ เวลาถ่ายจะต้องเอาเลนส์ไปสอดไว้กลางวงแหวน

ภาพที่ได้เป็นแบบนี้

ภาพจาก ring flash มันดูดีขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฉากหลังเป็นสีเขียว หรือลักษณะแสงมันช่วยให้ดูดีกว่าแบบวางในขวดพลาสติก แต่ก็จำหลักการเอาไว้เพื่อใช้ถ่ายภาพชิ้นอื่นๆต่อไป

ทดสอบ ring flash ราคาประหยัด

Ring Flash คือตัวกระจายแสงแฟลชแบบวงแหวน มีแสงออกจากตัวมันโดยรอบ การใช้งานก็ต้องวางวงแหนวไว้รอบเลนส์ถ่ายภาพ ลักษณะการใช้ Ring flash ได้รับความนิยมมาจากการถ่ายภาพฟัน ถ่ายภาพช่องปาก แล้วก็เลยเถิดมาสู่การถ่ายภาพมาโคร และก็มาถึงการถ่ายภาพบุคคล

Ring Flash ที่ทดสอบในบทความนี้เป็นรุ่นของเทียม คือมันเป็นเพียงวงแหวนสะท้อนแสงภายใน แหล่งกำเนิดแสงจะต้องเป็นแฟลชอีกตัวหนึ่ง ตัวมันเองมีหน้าที่บังคับทิศทางแสงเท่านั้น ซึ่ง Ring flash ของแท ตัววงแหวนมันจะต้องเปล่งแสงจากตัวเองได้เลย แต่มันก็จะมีราคาแพงมาก ยิ่งวงแหวนใหญ่ ยิ่งแพง Ring flash แบบอนาถาเลยเป็นเพียงวงแหวนกระจายแสงเท่านั้น ซึ่งคุณภาพก็จะด้อยกว่าของแท้ แต่มันก็พอใช้ศึกษา พอใช้งานทั่วๆไปได้บ้าง

ภาพโชว์ตอนมันทำงานผมติด Ring Flash ไว้กับ Flash ของ nikon แล้วก็รับสัญญาณแฟลชจากทริกเกอร์หรือตัวส่งสัญญาณแบบไร้สาย

ตอนทดสอบการใช้งานแบบปกติจะต้องติดแฟลขบนกล้อง และ เอา Ring flash ล้อมรอบเลนส์เอาไว้ เวลาถ่ายภาพวัตถุจะทำให้ไม่มีเงาอยู่ในฝั่งตรงข้ามกับแฟลชแบบปกติ แต่พอใช้งานจริงๆแล้ว ภาพจาก ringflash มันกลับทำให้มีเงาทั้งสองข้าง แต่เป็นเงาที่จางลง ซึ่งสามารถทำให้หายไปได้ถ้าเลือกให้ความไวชัตเตอร์ต่ำพอจะให้แสงรอบข้างมันสว่างจนลดผลของเงาได้ ยิ่งอธิบายก็ยิ่งงง เอาเป็นว่า ลักษณะเงาของ ring flash มันจะแตกต่างไปจากปกติ และมันเป็นรูปแบบที่เหมาะกับภาพที่ต้องการรายละเอียดของวัตถุเป็นหลัก

ลองหันไปถ่ายแฟลชติดทริกเกอร์บนขาตั้ง ถ่ายแบบวัดแสงให้อันเดอร์นิดหน่อย จะเห็นว่าฉากหลังมืดๆจะทำให้เห็นเงาของแฟลชอยู่ทั้งสองด้านของวัตถุ ส่วนวัตถุได้รับแสงพอดีจาก ring flash

การจะลดเงาฉากหลังลงก็ปรับค่าการรับแสงของกล้องให้พอดี หรือ วัดแสงโอเวอร์นิดหน่อย บางคนอาจจะเรียกว่าเป็น fill in คือใช้แสงแฟลชและแสงธรรมชาติในระดับพอดีทั้งหมด ภาพก็จะเป็นแบบนี้

หันไปถ่ายชั้นวางของ

ถ่ายรูปบล็อกปั็มไดคัท ลักษณะแสงแฟลชจะส่องไปทั้งซ้ายและขวา ทำให้ไม่เกิดเงาดำ แต่ก็จะเห็นเป็นเงาจางๆแทน

ลองเทียบลักษณะแสงกับแฟลชธรรมดา โดยแฟลชทั้งคู่ติดบนขาตั้ง รับคำสั่งจากทริกเกอร์ ภาพนี้แฟลชวางหันเข้ากำแพง ระดับกำลังไฟสว่างมากทำให้ดูไม่รู้ว่าลักษณะการกระจายแสงของมันเป็นอย่างไร

ปรับรูรับแสงของกล้องให้แคบลง จะเห็นว่าแฟลชปกติ กับ ring flash มีลักษณะการกระจายแสงไม่เหมือนกัน และถ้าดูให้ละเอียดอีกนิดจะสังเกตว่า สีที่วิ่งออกจาก ring flash มันจะติดสีแดงอย่างเห็นได้ชัด การเอาไปใช้งานควรจะต้องคำนึงถึงความเพี้ยนของสีให้ดีด้วย

เอามือไปวางไว้หน้าแฟลชปกติแล้วถ่ายภาพ

เอามือไปวางไว้หน้า ring flash

พอลอง ring flash เสร็จ เลยถือโอกาสลองแฟลชในแบบปกติด้วย แล้วปรับตั้งเพื่อหาความแตกต่างหลายๆแบบ อย่างเช่น ภาพนี้ ด้านซ้ายปรับระยะซูมหน้าแฟลชไว้ที่ 24mm ส่วนด้านขวาตั้งค่าซูมแฟลชไว้ที่ 85mm ผลก็คือด้านซ้ายวงกว้างกว่า แสงกระจายตัวกว้างกว่า และให้ความสว่างต่ำลง ส่วนด้านขวาซูมเยอะหมายถึงรวมแสงเข้าด้วยกัน การกระจายตัวก็จะแคบกว่า แสงที่บีบมารวมกันก็จะทำให้สว่างกว่า

สรุปแล้ว Ring Flash เป็นลักษณะการใช้แฟลชที่เน้นการถ่ายเพื่อเก็บรายละเอียด ส่วนลักษณะเงาที่เกิดขึ้นก็ถือว่าเป็นลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งอาจจะไม่ได้ถูกใจอย่างที่คิดไว้ แต่ก็ดีกว่าการใช้แฟลชแบบปกติเพื่อถ่ายวัตถุ เพราะเงาดำจะจางลงไปเยอะเมื่อใช้ ring flash

ตำรวจไทย

เล่นเน็ตไปเพลินๆ ก็บังเอิญไปเจอคลิปนี้พอดี
เลยสงสัยว่า ชาตินี้จะได้เจอตำรวจดีอีกบ้างไหม ใครชี้เบาะแสตำรวจดีได้ เลี้ยงสุกี้สองมื้อเลย

print on demand พิมพ์เร็วด่วนได้

มีอยู่วันหนึ่งระหว่างที่กำลังนั่งเฝ้าร้านเพื่อทำโอที มีลูกค้ารายหนึ่งโทรมาถามเรื่องพิมพ์ดิจิทัล เขาต้องการพิมพ์ A3 แล้วพับเป็น A4 ส่งไฟล์ประมาณสองทุ่ม ต้องส่งของก่อนวันรุ่งขึ้น ก่อน 8.00 น. ผมดูเวลา คิดประมาณ 10 วินาที แล้วตอบตกลง

ผมตัดสินใจส่งของตอนสี่ทุ่ม เพราะพรุ่งนี้ผมไม่มีเวลาออกไปส่งของรอบเช้า ดังนั้นงานนี้ผมเลยต้องพิมพ์ให้เสร็จประมาณสามทุ่ม และเดินทางไปส่งของถึงที่บ้านลูกค้าของลูกค้าอีกที

ผมดาวน์โหลดไฟล์งานเสร็จประมาณสองทุ่มครึ่ง ใช้เวลาตรวจและพิมพ์ทดสอบกระดาษอยู่ 15 นาที และใช้เวลาพิมพ์จริงประมาณห้านาที ใช้เวลาพับและตัดอีกประมาณ 15 นาที ผมออกจากโรงพิมพ์ตอนสามทุ่มสี่สิบนาที ไปถึงบ้านลูกค้าประมาณสี่ทุ่ม ส่งของเรียบร้อย

พิมพ์เร็วด่วนได้ เครื่องพิมพ์ดิจิทัลมันก็ทำได้ไม่ยากเย็น print on demand มันต้องแบบนี้แหละ

ข้อมูลงาน

โบรชัวร์ A3 พับเป็น A4

กระดาษ UPM 200g สั่งซื้อจากเอกวิน กระดาษตัวนี้พิมพ์ดิจิทัลได้สวยมาก
ก่อนจะเลือกกระดาษตัวนี้ ผมลองกระดาษอาร์ตด้าน 160 ของบริษัทสองเอ
คุณภาพงานดูไม่ได้ พิมพ์ออกมานึกว่าเครื่องพิมพ์เสีย พอเปลี่ยนกระดาษเท่านั้นแหละแทบจะไปเผากระดาษของสองเอทิ้งเลย

เครื่องพิมพ์ ใช้ Fujixerox 700 เป็นเครื่องดิจิทัลที่ผมเคยบนไว้ไม่ค่อยน่าใช้ ตอนที่มันยังมีปัญหาซ่อมไม่หายขาด แต่ตอนนี้มันปกติ ซ่อมบำรุงเรียบร้อย มันทำงานดีๆให้ผมได้ไม่ติดขัดเลย

งานยุ่งอีกครั้ง บ่น และบันทึก

ตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมาจนถึงเดือนนี้ ประมาณเก้าเดือน ที่โรงพิมพ์ไม่ได้ทำโอทีเลย จะมีบ้างแค่บางวันที่งานเร่งมากๆ และเดือนกรกฎาคมกับสิงหาคมที่ผ่านมาก็เป็นช่วงเวลาที่งานค่อนข้างน้อย บางวันเครื่องพิมพ์หยุดรองานครึ่งวัน ส่วนหนึ่งเพราะงานมันน้อยลงจริงๆ อีกส่วนก็คือผมมีเครื่องพิมพ์ดิจิทัลที่สามารถทำงานได้เร็วมาก งานพิมพ์หลายตัวถ่ายโอนจากเครื่องระบบเก่าไปสู่ดิจิทัลแล้ว มันทำให้งานที่ป้อนเข้าเครื่องพิมพ์ระบบเก่ายิ่งน้อยลงไปอีก

แม้ว่างานระบบเก่าจะน้อย แต่ยอดขายและรายได้ก็ไม่ได้ลดลงไปตามเหตุการณ์ เห็นได้จากว่าเสมียนงานเยอะขึ้น เพราะต้องเปิดบิลส่งของมากขึ้น โรงพิมพ์ผมมีงานที่ต้องส่งมากขึ้นกว่าต้นปี มอเตอร์ไซด์ที่จ้างไว้สองคันก็วิ่งส่งกันไม่ทัน บางครั้งต้องจ้างรถรับจ้างเพิ่ม บางครั้งผมต้องออกไปเอง เครื่องพิมพ์ว่างแต่งานเอกสารเยอะขึ้น เป็นสิ่งที่ยากจะอธิบายให้คนรุ่นเก่าให้เข้าใจ แม่ผมเห็นเครื่องพิมพ์ว่างแล้วรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็แก้ได้ด้วยการให้ดูตัวเลขรายได้ ส่วนพ่อผมที่ตอนนี้ปลดเกษีียรไปแล้วเพราะกำลังป่วยอยู่ แต่ก็ยังใช้ชีวิตปกติ เห็นเครื่องพิมพ์ว่างแล้วก็หงุดหงิด อันนี้ไม่รู้จะแก้ยังไง เพราะพ่อไม่เคยดูบัญชี

เดือนนี้เดือนตุลาคม ผมกำลังจะเร่ิมทำโอทีอย่างจริงๆจังตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เพราะอยู่ๆลูกค้าหลายรายก็สั่งงานเข้ามาพร้อมกัน ทั้งงานจำนวนน้อย และงานจำนวนมาก มันมาพร้อมกันจนเริ่มปวดหัว นอกจากลูกค้าเก่าแล้ว ยังมีลูกค้าใหม่เกิดขึ้นอีกหลายราย ทุกรายมาจากการแนะนำบอกต่อของลูกค้าเก่า บางรายก็เกิดใหม่จากการที่เขาสั่งงานเข้าบริษัท และ ลองสั่งงานส่วนตัว บางรายย้ายที่ทำงาน ไปที่ใหม่ก็เลยเรียกให้ไปรับงาน บางรายเคยเป็นลูกน้องในบริษัท พอเปิดบริษัทเองก็สั่งพิมพ์งานเอง

หลายวันมานี้มีงานเข้าต่อเนื่องหลายงาน บางงานผมยังไม่ว่างทำให้เลยด้วยเหตุผลว่ากำลังตามงานเก่าบางงานอยู่ งานเก่าที่มีปัญหาของสายการบิน ผมเดินทางไปกลับดอนเมืองเกินสิบครั้งแล้ว วันนี้ผมก็แวะเข้าไปอีกครั้ง แต่เป็นการเข้าไปเซ็นรับมอบงาน ผมถือเอกสารรับมอบงานออกจากดอนเมืองแบบสบายใจสุดๆ เพราะปัญหาที่เรื้อรังมันกำลังจะหมดลงแล้ว งานนี้ไม่ขาดทุนทางตัวเลข แต่ผมขาดทุนเรื่องการเดินทางและเสียเวลา เสียสุขภาพจิตมากมายมหาศาลตลอดกาลใครอย่าแตะ แต่ก็ดีใจที่เข็นให้งานนี้ผ่านไปได้

สัปดาห์ที่แล้ว เซลส์ของฟูจิซีร๊อกซ์โทรมาถามไถ่ ถามถึงเครื่องพิมพ์ดิจิทัลที่มีปัญหาจุกจิก ผมตอบไปว่าตอนนี้เครื่องทำงานปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร เซลส์เลยขอว่า ข้อมูลการใช้เครื่องที่ผมเคยโพสท์ไว้ในอินเตอเน็ตขอให้เอาลงได้ไหม ผมถามว่าทำไม คุณเซลส์ตอบว่ามันทำให้เขาขายของลำบากขึ้น ลูกค้า หรือว่าที่ลูกค้าได้มาอ่านบทความของผมทำให้เซลส์ขายของไม่ได้ ผมเลยถามกลับว่า สิ่งที่ผมเขียนไว้เป็นเรื่องโกหกหรือเปล่า เซลส์ตอบว่าไม่ แต่ขอให้ช่วยเอาลงได้ไหม ผมคิดนิดนึงแล้วก็รับปากไปว่าจะเอาลงให้ แต่ตอนนี้ผมก็ยังไมได้เอาลง เพราะว่าผมงานยุ่งมาก ติดไว้ก่อน อีกสักพักจะค่อยเอาลงนะครับ คุณเซลส์

เมื่อวานนี้เอง ผมกำลังพิมพ์ซองจดหมายด้วยเครื่องพิมพ์ดิจิทัล ยอดสั่งพิมพ์ 1000 ใบ ลูกค้าเอาซองเปล่ามาเอง ผมแค่สั่งพิมพ์ พิมพ์ไปเกือบพันใบ ก็เห็นว่ามีบางใบที่เอียง มันเอียงจนน่าเกลียด ผมคิดว่ามันคงเป็นแค่บางใบ พอให้ลูกน้องเอามาคัด ปรากฎว่านับยอดพิมพ์เสียได้ 200 ใบ นั่นคือมีของเสีย 20% ผมหยุดพิมพ์ทันที แล้วก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเรียกช่างมาซ่อม ผมโทรไปตอนห้าโมงเย็นแจ้งเรื่องเสร็จ อีกสิบนาทีช่างก็โทรเข้ามาหาผมถามอาการ แล้วก็แจ้งว่าจะเบิกอะไหล่บางตัวที่เอาไว้พิมพ์ซองจดหมายมาให้ และจะเข้ามาพรุ่งนี้เช้า ผมตกลง

มาตอนเช้าเก้าโมงกว่า ช่างเข้ามาและตรวจสอบอยู่ชั่วโมงกว่า ผมได้วิธีแก้ปัญหาแล้ว สามารถพิมพ์ซองต่อจนครบยอดสั่งพิมพ์ ผมพอใจผลการแก้ไข ผมดีใจที่บริการของฟูจิซีร๊อกซ์กลับมารวดเร็วเหมือนคำสัญญา ไม่ว่าเป็นเพราะผมไปบ่นจนเขาขายของลำบากหรืออะไรก็ตาม ถ้าทำได้ดีตามที่รับปากไว้ก็ถือว่าต้องได้รับคำชมเชย แต่ว่า…. ดูไปเรื่อยๆดีกว่า วันนี้งานมันจบ ลุล่วง แต่เมื่อวานเหตุการมันก็ไปตรงกับคำที่ว่า Print on demand but wait for service tomorow. ลูกค้าก็บอกว่า tomorow ก็ tomorow ยังไงก็ต้องรอ โชคดีที่เขาไม่ย้ายไปพิมพ์ที่อื่น