ถ่ายภาพทุ่งนาและต้นข้าว

ผมได้รับงานถ่ายภาพจากคนรู้จักแนะนำต่อ ลูกค้าคนใหม่นี้อยู่ต่างจังหวัด งานคือต้องไปถ่ายภาพต้นข้าวและทุ่งนาที่จังหวัดชัยนาท น่าจะใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อเก็บภาพให้ครบตามเนื้อหาที่ต้องการ นัดวันเสาร์ วันศุกร์เย็นผมเพิ่งจะได้รับการอธิบายการเดินทาง นับว่ากระทันหันอย่างมาก

ผมตื่นเช้าตามปกติ ไปเคลียร์งานที่โรงพิมพ์ก่อนเล็กน้อย แล้วก็ออกเดินทาง โดยอุปกรณ์ถ่ายภาพทั้งหมดยังคงอยู่ในรถยนต์ ซึ่งไม่ได้ขนลงหลังจากที่กลับมาจากการถ่ายภาพอาหาร มีเพียงแบตเตอรี่ของกล้องและแผ่นเมมโมรี่เท่านั้นที่หยิบออกมาเพื่อชาร์จและก๊อปปี้ไฟล์งานเก่าเก็บไว้

ผมออกเดินทางจากบ้านตอน 09.00 น. ขึ้นทางด่วนไปดินแดงแล้วต่อโทลเวย์ แล้วก็ขับตรงไปยังชัยนาท ผมไปถึงประมาณ 11.15 น. นั่งพัก กินข้าง คุยเรื่องเนื้อหาที่ต้องถ่ายภาพ แล้วก็เร่ิมงานถ่ายกันประมาณบ่ายโมง

ครั้งนี้เป็นการถ่ายภาพทุ่งนาและต้นข้าวในระยะใกล้ชิดมาก เมื่อก่อนได้แต่ขับรถผ่านแล้วอย่างมากก็แวะข้างทาง หยิบกล้องมาส่องแล้วกดชัตเตอร์เก็บภาพแค่ไม่กี่นาที แต่รอบนี้ ผมได้ใช้เวลากับทุ่งนาและต้นข้าวอย่างเต็มที่ ได้ความรู้รอบตัวเรื่องข้าวค่อนข้างเยอะ เพราะลูกค้าอธิบายเรื่องราวหลายๆอย่างให้ฟังอย่างหมดเปลือก คงต้องการให้ผมเข้าใจพฤติกรรมของข้าว ผมก็เห็นด้วย

ก่อนจะมาถ่ายภาพชุดนี้ผมหาข้อมูลภาพทุ่งนาและต้นข้าวอยู่หลายชั่วโมง เพื่อจะดูว่าเขาถ่ายภาพลักษณะไหนกันบ้าง ดูจบแล้วก็พอจะรู้แนวและรู้ว่าจะถ่ายภาพเพื่อนำไปใช้งานทำสิ่งพิมพ์อย่างไรถึงจะใช้งานง่าย การทำการบ้านมาก่อน และการได้มีเวลาอยู่ในสถานที่จริงค่อนข้างนานทำให้ผมสามารถถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น มีภาพที่ดีจำนวนมากในมาตรฐานของผม แม้ว่าผมจะไม่ค่อยแน่ใจว่าลูกค้าจะชอบภาพลักษณะนี้หรือไม่ แต่ผมก็พอใจของผมเอง

ภาพริมทุ่งแบบนี้จะเห็นแนวคันดินและต้นข้าว เป็นเพราะผมยืนอยู่ด้านข้าง ไม่ได้ลุยเข้าไปเลยได้ภาพมาลักษณะนี้ เป็นภาพที่จัดองค์ประกอบแบบสมดุลย์ ไม่ได้มีความหมายอื่นๆที่แอบแฝงไว้ ผมมองภาพส่วนใหญ่ในวันนี้เป็นแบบเรขาคณิต คือมองสัดส่วน รูปทรง แต่เพียงเท่านั้น ไม่ได้ซ่อนความหมายอะไรไว้ในภาพ

หลายภาพเป็นภาพเพื่อความมั่นใจ หมายความว่าเป็นภาพที่ไม่แย่ เป็นภาพที่สามารถเอาไปใช้งานทำเอกสาร ทำสื่อต่างๆได้ไม่ยาก ผมเรียกภาพลักษณะนี้ว่า “เซฟช็อต” คือได้ภาพที่ดีในระดับนึง อาจจะไม่ได้สร้างสรรให้หวือหวาหรือโชว์ภูมิใดๆ

ภาพคนถือขวดผลิตภัณฑ์ เป็นภาพแนวบังคับว่าเนื้อหาต้องมีคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ด้วย ภาพนี้เป็นภาพที่ผมพยายามถ่ายให้ดูแปลกกว่าภาพเซฟช็อต เลยเลือกที่จะถ่ายคนด้วยเลนส์มุมกว้างพร้อมกับการเลือกใช้แฟลชเสริมยิ่งเข้าไปด้านหน้าด้วย ลักษณะภาพที่ออกแบบไว้ในหัวจะต้องมีท้องฟ้าสีฟ้าสวยๆอยู่ด้านหลัง แต่วันนี้มีเมฆเยอะ เลยได้มาแค่นี้

ภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายออกมาจากเพิงที่พักของชาวนาเจ้าของที่ดิน ผมเห็นว่าที่นั่งตรงนี้มันร่ม และรู้สึกสบายตาที่จะมองออกมา เห็นด้านบนเป็นส่วนมืด ด้านล่างก็เป็นส่วนมืด เลยเลือกที่จะวัดแสงให้ต้นข้าวด้านนอกได้รับแสงพอดี แล้วปล่อยให้ด้านไม่โดนแสงมืดไปเลย

นี่คือเบื้องหลังอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้่ถ่ายภาพ ผมใช้แฟลชสองตัวช่วยกันยิงแสงออกมาสู้กับแสงแดด แต่ก็ยังให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีพอ จริงๆอยากได้แฟลชแรงกว่านี้ แต่ผมมีอยู่แค่สองตัวเลยไม่ค่อยตรงใจสักเท่าไหร่ ภาพที่ใช้แฟลชก็คือภาพคนด้านบนที่พูดถึงไปแล้ว

ภาพแปลงต้นกล้า เป็นต้นกล้าที่ถูกจ้างปลูกเอาไว้ ชาวนายุคปัจจุบันหลายคนเริ่มจ้างคนอื่นปลูกต้นกล้า เมื่อต้นกล้าโตเต็มก็ค่อยมาเอาไปลงดินจริงๆ ธุรกิจปลูกต้นกล้าก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่มีรายได้ค่อนข้างดี เพราะชาวนาหันมาใช้บริการจ้างปลูกต้นกล้าเยอะขึ้นเรื่อยๆ

ภาพนี้คือต้นกล้าอายุ 1 วัน จริงๆคงไม่สามารถเรียกว่าต้นกล้าได้ เพราะมันยังเป็นแค่เมล็ดข้าวที่กำลังงอกหมาดๆ อายุแค่หนึ่งวัน

พอผ่านไปหลายวันต้นกล้าก็สูงขึ้น ยืนต้นวางเบียดกันเต็มกระบะ

ต้นกล้าอายุประมาณสองอาทิตย์ก็พร้อมจะถูกนำไปลงดินจริงๆ บางคนใช้ปักดำ บางคนใช้โยนกล้า ซึ่งเริ่มมีคนรู้จักวิธีโยนมากขึ้นเรื่อยๆ ภาษาท้องถิ่นเรียกวิธีการโยนว่า “นาโยน”

สาวคนนี้คือผู้รับจ้างปลูกต้นกล้า

ภาพชุดนี้มีคุณภาพค่อนข้างดี หลายภาพมีองค์ประกอบที่เหมาะสำหรับนำไปทำเอกสารและสื่อสิ่งพิมพ์ มีภาพของแถมหลายรูปที่ผมเห็นแล้วเลือกถ่ายเก็บไว้ด้วย

อย่างเช่นภาพนี้เป็นต้น ไม่รู้ว่าบริษัทที่ขายขนมถุงที่อยู่ในมือของเด็กคนนี้จะดีใจบ้างไหมถ้าได้เห็นภาพนี้

ผมเสร็จงานที่ชัยนาทประมาณห้าโมงเย็น กินข้าวเสร็จก็ขับรถกลับ ใช้เวลาเดินทางกลับประมาณสามชั่วโมง

ถ่ายอาหารอีกครั้งด้วยอุปกรณ์อนาถา

มีงานถ่ายภาพอาหารเข้ามาอีกแล้ว เป็นอาหารประเภทข้าวในร้านฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง คราวที่แล้วถ่ายภาพแฮมเบอร์เกอร์ คราวนี้เป็นจานข้างซึ่งขนาดใหญ่กว่าเดิม ทำให้ผมต้องเปลี่ยนอุปกรณ์การถ่ายภาพเล็กน้อย

ลักษณะของอุปกรณ์ช่วยถ่ายในงานประเภทนี้คือเต๊นท์สำหรับถ่ายสินค้า ตอนที่ถ่ายของเล็กๆผมก็เอากล่องกระดาษขนาดไม่ใหญ่มาเจาะเพื่อติดกระดาษขาวบาง แล้วก็เอาสินค้าไปวางในกล่องเพื่อถ่าย แต่คราวนี้สินค้าใหญ่ขึ้น ผมเลยต้องเปลี่ยนเต๊นท์ให้ใหญ่ขึ้นเช่นกัน

กล่องใบใหม่นี้เป็นกล่องใส่ปริ๊นเตอร์ ผมรื้อหากล่องเก่าๆในโรงพิมพ์เพื่อเอามาดัดแปลง ใช้เวลาเลือกกล่องอยู่เกือบชั่วโมง แล้วก็จัดการตัดด้านข้างสองด้าน ด้านบนอีกหนึ่งด้าน สั่งคนงานทำให้ แล้วกล่องก็พร้อมใช้งานตอนสิบโมงเช้า ซึ่งคิวงานผมนัดไว้ตอน 11.00 น. ที่ถนนรามคำแหงใกล้ถนนวงแหวนตะวันออก

ทีแรกจัดไฟด้วยแฟลชตัวเดียว คือติดแฟลชไว้บนขาตั้งแล้วส่องข้างบนของกล่อง วางวัตถุในกล่องตามภาพ ได้ตัวอย่างงานตามที่เห็น

แล้วก็จัดการวางสินค้าจริงเข้าไปถ่าย เมนูอาหารจานเดียว แบบเดียว แต่วางหลายๆแบบ แล้วก็มีบางภาพที่ลองเพิ่มแสงแฟลชด้านข้างเข้าไปด้วย ผลลัพธ์ที่น่าพอใจออกมาในภาพช่วยสุดท้าย คือเป็นภาพที่ใช้แฟลชสองตัว โดยแฟลชตัวที่สองอยู่ทางด้านขวามือ

ได้แสงที่ต้องการแล้วก็ลองขยับอาหารดูหลายๆแบบ ได้ภาพคล้ายๆกัน ซึ่งลูกค้าดูแล้วก็พอใจ จบงานได้ภายในสองชั่วโมง

งานนี้ใช้เวลาเดินทางไปกลับนานกว่าเวลาที่ใช้ถ่ายภาพ