บางแสนดูเป็นระเบียบดี

วันว่างของวันหยุดยาววันหนึ่ง แม่ชวนไปหามื้อเย็นกินกันที่บางแสน ก็เลยขับรถกันไป ขาไปรถไม่ติดเลยเพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่คนอื่นๆเขากำลังเดินทางกลับเข้ากรุงเทพกัน ไปถึงบางแสนในเวลาประมาณ 1 ชม. เศษ บริเวณถนนย่อยวิ่งเข้าชายหาดมีรถค่อนข้างเยอะ ขับได้ช้ามาก ไม่เหมือนบนทางด่วนที่วิ่งกันได้สบายๆ ทำความเร็วได้สูงมาก

แวะกินร้านข้างทางแถวๆอ่างศิลา ชื่อร้านเจ๊อ่วย รสชาดอาหารก็พอใช้ได้ ราคาถูก แต่มีข้อเสียตรงที่ไม่มีห้องน้ำอยู่ในร้านเลย จะต้องเดินไปเข้าห้องน้ำที่ตึกแถวซึ่งเห็นอยู่ไกลๆ กินกัน 3 คน สั่งของ 5 อย่าง เช็คบิลออกมาได้ 450 บาท

กินเสร็จแล้วก็แวะไปเดินเล่นริมหาด ขับรถเลยจุดที่แวะกินไปประมาณห้านาทีก็ถึงริมหาดบางแสน คนค่อนข้างเยอะ แต่ผมไปถึงก็ค่อนข้างเย็นแล้ว ที่จอดรถก็หาได้ค่อนข้างง่าย แตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง เพราะบางแสนผมเคยแวะไปตอนกลางวันซึ่งเป็นวันหยุดที่ใครๆก็หาเรื่องเที่ยว ผมก็จะเจอสถานการณ์รถติดอย่างมาก แต่วันนี้โชคดีที่มาไม่เร็วเกินไป

From for wordpress4

บางแสนยังเป็นระเบียบเหมือนเมื่อสิบปีก่อน ซึ่งดีกว่าบางแสนในความทรงจำเมื่อยี่สิบปีก่อนอย่างมาก ร้านค้าขายของริมหาดมีระเบียบเรียบร้อย

แม้ว่าร่มจะเยอะ เตียงชายหาดจะเยอะ แต่มันก็กลายเป็นลักษณะเฉพาะของหาดยอดนิยมไปเสียแล้ว ใครถ่ายภาพออกมาไม่มีภาพร่มและเตียงนอนก็จะดูแปลกๆและอาจจะคิดไปว่าไม่ได้ไปบางแสนจริงๆ

เวลาเย็นแบบนี้ไม่มีแดดแล้ว ร่มก็จะถูกหุบลงไปทุกคัน การถ่ายภาพร่มและเตียงริมหาดเหล่านี้ก็มักจะต้องถ่ายออกมาให้เห็นว่ามีแนวร่มเรียงกันยาวเหยียด มีเตียงวางเป็นตับ

ถ้ามีแดดอาจจะไม่ได้อารมณ์เย็นๆสบายๆแบบนี้

นอกจากของกินแล้วก็มีของเล่นหลายอย่างที่มาเร่ขายอยู่ริมหาด

และที่ขาดไม่ได้สำหรับบางแสนก็คือจักรยาน ซึ่งจะต้องเป็นจักรยานสองที่นั่งขึ้นไปเสียด้วย บางคันสามที่ บางคันสี่ที่เลยก็มี ถ่ายรูปมานิดเดียวก็แสงหมดเสียแล้ว

อัดรายการช่างคุย

รายการช่างคุย เป็นรายการพอดคาสท์าหนึ่งที่มีมานาน ปีนี้จะครบปีที่ 4 ถือได้ว่าเป็นรายการแรกๆของเมืองไทย และยังคงไม่ล้มหายไปไหน ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งมีเนื้อหาสะสมมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอัตราการผลิตงานต่อเดือนอยู่ในระดับนี้ ผมเชื่อว่าไม่มีใครแซงได้ ยกเว้นคนทุนหนา ลงทุนซื้อเนื้อหามาใส่ แบบนั้นไม่น่าจะเอามาแข่งขันกันได้

ผมอาสาเข้าไปพูดคุยในรายการด้วย เพราะเป็นหัวข้อที่ผมสนใจ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดการสีของรูปภาพและสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นอาชีพของผมทั้งสิ้น ถ่ายรูปแล้วอัดภาพสีไม่ถูกใจ ส่งงานพิมพ์เข้าโรงพิมพ์แล้วได้สีไม่ตรงตามต้องการ เรื่องราวเหล่านี้สมควรจะถูกอธิบายอย่างต่อเนืื่อง เพราะนักเรียน นักศึกษาที่จบกันออกมาต่างก็จำวิธีผิดๆออกมาทำงานกันตลอด

แขกรับเชิญที่เป็นพระเอกของการพูดคุยครั้งนี้คือ คุณ ขจร พีระกิจ เป็นพนักงานของ adobe ซึ่งเป็นบริษัทซอร์ฟแวร์เกี่ยวกับภาพและสิ่งพิมพ์อันดับหนึ่งของโลก และไม่มีอันดับสองให้นับ เพราะมีอยู่รายเดียว พี่คนนี้เป็นคนทำงานในวงการพิมพ์มานาน และมีความรู้ความชำนาญในภาคปฏิบัติ และมีความรู้ในส่วนของวิชาการที่เป็นสากล ผมอยากรู้อยากเห็น อยากได้ความรู้ในเรื่องเหล่านี้จึงอาสาเข้าไปขอร่วมพูดคุยด้วย

แขกคนอื่นๆก็เป็นเด็กๆรุ่นน้อง เป็นคนที่สนใจถ่ายภาพ เป็นคนที่เรียนมาทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีทางภาพจากจุฬาฯด้วย ซึ่งผมก็จบที่นี่เหมือนกัน

ผมไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลาประมาณ 15 นาที แล้วก็เริ่มพูดคุยกันเกริ่นถึงสิ่งที่จะพูด แล้วก็เริ่มบันทึกการสนทนา ใช้เวลากันเกือบสองชั่วโมง ซึ่งถือว่าค่อนข้างยาว เนื้อหาในสิ่งที่คุยกันก็ยังไม่ครบถ้วนในส่ิงที่ควรจะพูดถึง มันคงต้องใช้เวลามากกว่านี้ หรืออาจจะต้องแบ่งหัวข้อกันให้ชัดเจนแล้วเลือกพูดแค่บางหัวข้อ แต่เริ่มคุยสิ่งเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ดีตรงที่ได้ความรู้จากคนรู้จริง และมีการถ่ายทอดออกไปสู่คนที่สนใจ