เดือนมกราคมที่ผ่านมาไปถ่ายรูปงานแต่งงานมาสองงาน หนึ่งในสองเป็นงานของเพื่อนที่รู้จักกันมาหลายปี เขาให้ไปช่วยถ่ายก็ไป งานจัดทึี่โรงแรมมาริอ็อต บุคโล ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้บ้านมากๆ ด้วยความที่เป็นโรงแรมริมแม่น้ำ เลยมีพื้นที่ริมน้ำให้จัดงาน และงานก็ออกมาดูดีน่าประทับใจ ภาพที่ถ่ายกลับมาประมาณสี่ร้อยภาพ มีภาพที่ชอบไม่กี่ภาพเอง
Daily Archives: February 16, 2010
เดินผ่านสยาม
วันที่ได้ไปติดต่องานที่พาราก้อน เดินผ่านแถวนั้นได้ภาพมาหลายภาพ มีบางภาพก็ตั้งใจถ่ายให้ดูเหมือนแนวเสียดสีสังคม ถ้าเป็นฟิล์ม เป็นกล้องไลก้า และเป็นช่างภาพอยากดัง ก็คงจะเอามาจัดแสดงภาพเป็นแกลอรี่ หรือเอาไปตีพิมพ์ แต่บังเอิญเป็นแค่คนพกกล้องถ่ายรูปเล่นๆ เลยไม่รู้จะเอาไปทำอะไรต่อดี
ขอสวมวิญญาณช่างภาพปากสว่างสักหน่อย
“ภาพนี้ตั้งใจถ่ายให้เห็นความแตกต่างและความเป็นไปของชีวิตในเมือง สยามสแควร์เป็นแหล่งแฟร์ชั่นฟุ้งเฟ้อ เต็มไปด้้วยข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็นต่อชีวิต เป็นแหล่งดูดเงินที่สำคัญระดับต้นๆของประเทศ หน้าร้านขายคอมพิวเตอร์ยี่ห้อแอปเปิ้ลซึ่งเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่น คนที่ใช้คอมพิวเตอร์ของแอปเปิ้ลมักจะเป็นคนที่ยอมจ่าย เลือกที่จะจ่ายเพียงเพื่อความดูดีเป็นหลัก สาวน้อยที่เดินผ่านไปบนฟุตบาตก็เป็นชีวิตหนึ่งที่เร่ร่อนอยู่ในโลกของความงาม ในขณะเดียวกันขอทานพิการก็เลือกที่จะมาทำมาหากินบนถนนแฟร์ชั่นนี้เช่นกัน”
เป็นไง เน่า และไร้สาระ ไม่พล่ามซะยังดีกว่า ปล่อยคนดูคิดเองคงเป็นหนทางที่ดีที่สุด
ถ่ายภาพโคมไฟ
มีเพื่อนไหว้วานให้ถ่ายภาพโคมไฟ แต่กว่าจะว่างก็ผ่านไปหลายวัน โคมไฟประเภทนี้เคยเข้ามาบุกตลาดในประเทศไทยเมื่อเกือบสิบปีก่อน ตอนนั้นเป็นความแปลกใหม่ หวือหวา โดยเฉพาะมันถ่ายรูปแล้วสวยมาก แต่ในตอนนั้นก็ไม่เป็นที่นิยม ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรเหมือนกัน
ผ่านไปหลายปี เห็นเงียบไปแล้ว แต่อยู่ๆก็เห็นเพื่อนเอามาขาย เขาบอกว่ามันเริ่มได้รับความนิยมในรีสอร์ทและโรงแรม ร้านอาหาร ไม่ค่อยมีใครซื้อไปประดับบ้าน แต่เจอได้บ่อยมากตามที่ท่องเที่ยว และเขาก็เอามาขายเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เห็นว่ามียอดขายที่น่าสนใจเหมือนกัน คือขายได้เรื่อยๆและขายได้บ่อยขึ้น ก็เลยเป็นที่มาของการถ่ายภาพในครั้งนี้
ทีแรกก็นึกไม่ออกว่าจะถ่ายยังไง เอาไปวางไว้ในที่ค่อนข้างมืด เปิดไฟ หาขาตั้งมาแขวน ปรับกล้องให้วัดแสงพอดีที่ตัวโคมไฟเลย ก็ได้ภาพโคมไฟสวยบนพื้นสีดำ เพราะว่าสภาพแสงที่อยู่บนผนังน้อยมากเมื่อเทียบกับผิวโคมไฟ ผนังก็เลยมืด
เห็นว่าผนังมืดเกินไปเลยไปเอาสป็อตไลท์มาเปิดส่งสว่างให้กับผนังด้วย โดยการเปิดสป็อตไลท์ไปที่เพดาน ให้เพดานทำหน้าที่สะท้อนแสงลงมา แสงที่อยู่ในภาพจะได้นุ่มนวล ก็เลยได้มาอีกภาพหนึ่งที่เห็นพื้นผนัง ค่าแสงที่ถ่ายเป็นค่าเดิมที่ใช้ถ่ายตอนผนังมืด การเปิดสป็อตไลท์ช่วยก็ไม่ได้ปรับหน้ากล้องตามค่าแสงใหม่ ทำให้ภาพทั้งภาพดูสว่างขึ้น งงไหม?
สรุปแล้วโคมไฟแบบนี้ถ่ายไม่ยาก แค่จัดอุปกรณ์ตามแบบ
ไปถ่ายรูปงานรับปริญญา
สักเดือนก่อนมีน้องคนหนึ่งโทรมาถามเรื่องถ่ายรูป จะให้ไปถ่ายรูปงานรับปริญญา สอบถามได้ความว่าจบ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รับที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ที่แรกที่คุย จำว่าชื่อน้อง หลิน แต่วันที่โทรคอนเฟิร์ม กลายเป็นน้องเอ๋ ไม่รู้ว่าอะไรทำให้สับสน สรุปว่าชื่อน้องเอ๋ หน้าตาเป็นยังไงก็ยัังไม่รู้ แค่จำได้ว่าเคยถ่ายรูปน้องเขาในงานแต่งงงานครั้งหนึ่งของลูกค้า
วันถ่ายภาพ ตรงกับวันตรุษจีน ผมนั่งแท็กซี่ไปศูนย์ประชุมฯ เพราะไม่มั่นใจว่าจะจอดรถได้ ไปถึงก่อนเวลานัด ของที่เตรียมไปก็มีแค่กระเป๋าเดียว ไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ เพราะไม่มีอุปกรณ์สำรองเลย ทุกทีจะมีอุปกรณ์ต่างๆจำนวนมากอยู่ท้ายรถ แต่วันนี้มาแท็กซี่่เลยขนได้แค่กระเป๋ากล้องใบเล็กใบเดียว
แต่เหตุการณ์ก็ผิดคาด คนมางานรับปริญญาไม่เยอะ คงเป็นเพราะเป็นเทศกาลตรุษจีน เพราะแม้แต่ญาตของบัณฑิตเองก็ไม่มา โชคดีที่พ่อแม่ของน้องบัณฑิตยอมมาร่วมงาน แต่ก็ต้องรอให้ไหว้เจ้าเสร็จเสียก่อน เลยมาได้ถ่ายรูปครอบครัวพร้อมหน้ากันตอนก่อนเดินเข้าห้องประชุมแค่ห้านาที
ที่จอดรถเหลือเยอะมาก น่าเสียดายที่ไม่ได้เอารถมาด้วย ทำให้ต้องเสียค่ารถแท็กซี่ไปกลับรวมสองร้อยกว่าบาท ได้ค่าเหนื่อยไม่เต็มที่ ไม่เป็นไร นานๆที เพราะถ้าไม่ใช่คนรู้จัก ก็คงจะเรียกค่าแรงแพงกว่านี้
อุปกรณ์ที่ใช้ก็คือ กล้อง Eos5d เลนส์ 70-200/2.8 เกือบตลอดเวลา แฟลช 550ex มีบางช่วงที่ใช้ tamron 28-75/2.8