สามวันก่อนมีฝนตกหนักมาก รถจอดอยู่ในโรงงาน อยู่ใต้ท่อน้ำทิ้งจากหลังคาชั้นสองพอดี น้ำจากท่อไหลลงบนกระจกหลังรถ ปกติก็แค่รถเปียก แต่คราวนี้ฝนตกหนักมาก มากซะจนท่อน้ำทิ้งมีน้ำไหลแรงราวกับเป็นท่อฉีดน้ำดับเพลิง น้ำเลยซึมเข้ากระโปรงท้ายรถ ในนั้นมีกระเป๋าคอมพิวเตอร์ กระเป๋ากล้องหลายใบ หนังสือ และข้าวของอื่นๆ กระดาษเป็นปึกๆ
เมื่อวานเห็นว่ามีอะไรชื้นๆอยู่ที่ขาตั้งกล้องเลยหยิบออกมาดู ก็พบว่าขาตั้งกล้องมีละอองน้ำเปียกอยู่ พอเข้าใจได้ว่าน้ำเข้ารถ เลยสำรวจหยาบๆ พบว่าพื้นรถ(ในกระโปรงหลัง) มีความชื้น หนังสือและกระดาษบวมหมด พรมในรถมีราขึ้น เลยจัดการเช็ดออก แล้วก็เก็บของเหมือนเดิม เอามือจับกระเป๋ากล้อง บางใบก็มีชื้นๆนิดหน่อย แต่บางใบไม่ชื้น เลยคิดไปว่าน้ำคงซึมแค่เล็กน้อย
วันนี้เอากล้องกับเลนส์ออกมาใช้ หยิบออกมาแล้วพบว่าเลนส์เปียก แค่นั้นแหละ เรื้อทุกอย่างท้ายรถออกมาวางเรียงราย กระเป๋ากล้องทุกใบชื้นหมด ที่พื้นกระเป๋าค่อนข้างเย็นมาก แสดงว่าน้ำคงมีมากกว่าการซือ หยิบเลนส์ออกจากกระเป๋า รีบผึ่งให้แห้ง หยิบเลนส์มาใส่กล้องแล้วลองถ่ายหลายๆแบบ เปลี่ยนเลนส์ครบทุกตัวเพื่อเช็คสภาพ เท่าที่ดูด้วยสายตา และดูจากภาพที่ถ่าย เลนส์ยังไม่เสียหายไปจากความชื้นเหล่านี้ แต่ก็ประมาดไม่ได้ กระเป๋ากล้องที่ชื้นอยู่เอาไปผึ่งลม อยากให้แดดออกแต่วันนี้ดันไม่มีแดด คิดเอาไว้ว่ากระเป๋ากล้องที่ชื้นมากๆคงจะทิ้งไปเลย ไปซื้อใบใหม่ดีกว่า ไม่มั่นใจใบเก่าแล้ว
ตอนลองเลนส์และกล้องก็ถ่ายไปเรื่อยเปื่อย มีเด็กๆวิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆก็เรียกมาเป็นแบบเล่นๆ แล้วน้องๆเหล่านั้นก็โพสท์ท่าถ่ายรูป ไม่รู้ใครสอน หรือมันเป็นพันธุกรรม มันโพสท์ท่าเดียวกัน มันโพสท์ท่าเหมือนบางภาพสมัยผมเด็กๆ … ขำดี