ลำโพงสำหรับ ipod ที่เท่ห์ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าด้วยนะเนี่ย
Monthly Archives: June 2009
Birth Shot
on demand – healtcare wellness book
ธุรกิจสุขภาพ โรงพยาบาล สถานเสริมความงาม ลดความอ้วน บางที่อยากจะทำสมุดประจำตัวคนไข้(ลูกค้า) ในสมุดประจำตัวจะมีข้อมูลการตรวจ การรักษา ตารางต่างๆ พร้อมด้วยข้อมูลที่ต้องการให้ลูกค้าอ่าน อย่างเช่น โปรแกรมลดน้ำหนัก จะมีตารางอธิบายเรื่องการกิน อาหารที่แนะนำ มีรูปอาหาร มีรายละเอียดของอาหาร มีกำหนดการว่าเดือนหนึ่งๆควรกินอะไรไม่เกิดเท่าไหร่….. ข้อมูลทำเป็น guidebook เล่มหนาเท่ากับพ๊อกเก็ตบุ๊คขนาดถือด้วยมือเดียว ความหนาสัก 60 หน้า เข้าเล่มไสกาว พิมพ์ 4 สีทั้งเล่ม
ถ้าจะไปพิมพ์หนังสือขนาดเล็ก 4 สี 64 หน้า ขนาด A6 ทำเพลทพิมพ์ต้องใช้เพลทสัก 12000 บาท ต้องทำทีละ 500 เล่ม ยอดรวมทั้งหมดน่าจะประมาณ 31000 บาท หารต่อเล่มก็ได้เล่มละ 62 บาท ถ้าทำแค่ 200 เล่ม จะกลายเป็นเล่มละ 140 บาท และทุกเล่มหน้าตาเหมือนกัน แต่ถ้าใช้ระบบดิจิทัล ใช้เครื่องพิมพ์ที่สามารถพิมพ์เปลี่ยนข้อมูลได้ ก็จะสามารถทำข้อมูลเฉพาะเล่ม เฉพาะลูกค้าได้ สั่งทำทีละเล่ม ต้นทุนเครื่องดิจิทัลจะใช้กระดาษ 4 แผ่น A3 ซึ่งคิดเป็นค่าพิมพ์แผ่นละ 10 บาท ต้นทุน 40 บาท ทำเล่มทีละเล่มใช้เครื่องทำเล่มแยกต่างหากเป็นงานค่าแรง คิดค่าทำเล่ม 10 บาท ก็จะรวมทุน 50 บาทต่อเล่ม ขายสัก 300 บาทต่อเล่ม ถ้าเขามีลูกค้า 10 คนก็ได้ 3000 ถ้ามี 50 คนก็ได้ 15000 ซึ่งทุกคนจะมีรายละเอียดในเล่มไม่ซ้ำกันเลย
ก่อนจะไปถึงการพิมพ์เป็นเล่ม ก็จะได้ค่าจ้างในส่วนของการทำอาร์ตเวิร์ค 64 หน้า จำนวน 2 หรือ 3 แบบ เพื่อเตรียมไว้เป็นเทมเพลตใส่รายละเอียดของลูกค้า งานอาร์ตเวิร์ึคตัวนี้คิดเป็นค่าจ้างประมาณ 10000 บาทต่อชุด ลูกค้าอาจจะจ่ายครั้งเดียวทำไว้ 2-3 แบบ คิดเป็นค่าอาร์ต 30000 บาท ตรงนี้เป็นค่าใช้จ่ายการเตรียมข้อมูล ไม่ว่าจะพิมพ์ด้วยระบบโบราณแบบต้องทำเพลท หรือ พิมพ์ด้วยระบบดิจิทัลไม่ต้องทำเพลท(และพิมพ์เล่มเดียวก็ได้) ลูกค้าก็ต้องจ่ายอยู่ดี
on demand – pocketbook
งานพิมพ์ on demand สำหรับทำพ๊อกเก็ตบุ๊ค สำนักพิมพ์สามารถสั่งพิมพ์หนังสือที่อยากลองตลาดด้วยระบบ on demand ต้นทุนต่อเล่มอาจจะราคาเท่ากับถ่ายเอกสาร ลองพิมพ์จำนวนน้อยๆเพื่อทำการทดลองขายว่าได้รับการตอบรับดีหรือไม่ อาจจะพิมพ์แค่ห้าสิบเล่ม ซึ่งต้นทุนต่อเล่มอาจจะราคา 150 บาท ลงทุน 7500 มีหนังสือมาลองขาย ตรงนี้ประหยัดกว่าค่าทำเพลท สามารถปรับเปลี่ยนต้นฉบับได้เรื่อยๆ ถ้าเนื้อหาลงตัว การตอบรับเป็นที่น่าพอใจค่อยเอาไปทำเพลทพิมพ์จำนวนเยอะๆ
สำนักพิมพ์ทั้งเล็กและใหญ่ ก็น่าจะได้ประโยชน์ หน่วยงานต่างๆที่ต้องทำหนังสือเพื่อแจกหรือใช้ในงานสัมมนาก็ได้ประโยชน์ เว็บสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ก็สามารถมีหนังสือขายได้ตามสั่ง
กลุ่มลูกค้า E-book ก็น่าสนใจ หนังสือเป็นต้นฉบับในคอมพิวเตอร์ พิมพ์ทำเป็นเล่ม ราคาเท่ากับถ่ายเอกสาร ได้หนังสือน่าเปิด เปิดอ่านที่ไหนก็ได้
fujixerox x700 cost
เครื่องพิมพ์ดิจิทัลของ fujixerox เป็นเครื่องที่เหมาะนำมาทำงาน print on demand ต้นทุนค่าเครือง 2.65 ล้านบาท ผ่อนห้าปี คิดรวมดอกเบี้ยแล้วเกือบ 3.2 ล้านบาท
หารย่อย 3.2ล้าน/5 = 640000 บาท ต่อปี
640000/52 สัปดาห์ = 12307 บาทต่อสัปดาห์
12307 / 5 วันต่อสัปดาห์ = 2461.4 บาทต่อวัน คิดที่การทำงานห้าวันต่อสัปดาห์
การทำกำไรวันละประมาณ 2500 บาท หาได้จากอะไรบ้้าง
///////////////////////////////////////////////////////////////////////
ถ้าทำกรอบรูป ขนาด A3 ขายกรอบละ 300 บาท
ต้นทุนพิมพ์ 5 บาท ต้นทุนไม้ 30 บาท
เหลือกำไร 265 ต่อชิ้น แบบนี้ขายวันละ 10 อัน
ทำโฟโต้บุ๊ค เล่มละ 800 บาท มี 10 แผ่น 20 หน้า
ต้นทุน 5 ใบพิมพ์ (พิมพ์สองหน้า) x 9 บาท ทำปก50บาท รวมทุน 95 บาท
กำไร 705 บาท แบบนี้ต้องทำ 4 เล่มต่อวัน
อัดภาพจัมโบ้ พิมพ์หน้าเดียว ใบใหญ่ตัดได้ 8 ภาพ ขายใบละ 4 บาทขายได้ 32 บาท
ต้นทุน 5 บาท หารเป็นต่อใบ 5/8 = 0.625 บาท
กำไรใบละ 4-0.625 = 3.375 บาท ต้องทำ 2500/3.375 = 740.74
หรือต้องทำภาพจัมโบ้ 741 ใบต่อวัน
ถ้าคิดแบบนี้ เหนื่อยน่าดู กว่าจะหางานจนคืนทุน
///////////////////////////////////////////////////////////////////////
2500 บาทต่อวัน หรือ 12500 บาท ต่อสัปดาห์
ถ้าถ่ายภาพเวดดิ้ง 1 ครั้ง พร้อมทำอัลบั้มรูปให้ 1 เล่ม
สมมุตว่าต้นทุนทำเล่ม เล่มละ 200 บาท ขายแพ็ดเกจถ่ายรูป 15000 บาท
เท่ากับได้ค่าแรงถ่ายรูป 15000 – 12500ค่าผ่อนเครื่อง – 200 = 2300 ต่อสัปดาห์ต่อ 1 งาน
ถ้ามองเป็นเดือน เดือนนึงต้องผ่อนเครื่อง 12500×4 = 50000 บาท
ค่าช่างภาพ 1 คน จ้างเป็นเดือน 15000 ค่าช่างทำผมแต่งหน้า 10000
รวมแล้ว 50000+15000+10000 = 75000 บาท
ต้องรับงานถ่ายเวดดิ้ง 15000 ต่องาน เป็นจำนวน 5 ครั้ง ถึงจะเท่าทุน
รู้สึกว่าเหนื่อยกว่าเดิม
///////////////////////////////////////////////////////////////////////
คิดใหม่ว่าลงทุน 3.2 ล้าน ถ้าทำกำไรหน่วยละ 50 บาท ต้องทำกี่หน่วย
3200000 / 50 = 64000 หน่วย ขายอะไรได้ 64000 ชิ้นต่อ 5 ปี
หรือขาย 64000/5 = 12800 ชิ้น ต่อปี
นั่นสิ ขายอะไร
งานสัมมนา คนเข้างาน 100 คน ลงทะเบียน รับป้ายชื่อ …..
พิมพ์ป้ายชื่อ พร้อมสูจิบัตรแจกคนละ 1 ชุด คิดคนละ 50 บาท กำไรคนละ 40 บาท
100 คน กำไร 4000 บาท ยังได้ค่าผ่อนเครื่องไม่ถึงสองวัน…..
บัตรเข้างานเทศกาลเทียน 5000 คน จะเอาเงินจากกลุ่มนี้คนละเท่าไหร่?
ถ้าคนละ 100 บาท ได้เงิน 5 แสน ผ่อนเครื่องได้ 1 ปี
เอาเงินคนละ 100 บาท ต้องทำอะไรให้เขาบ้าง คงต้องมีระบบเว็บลงทะเบียน
ปริ๊นท์บัตรเข้างานติดชื่อ มีหน้าด้วยยิ่งดี แถมปฏิทินพกพาด้วย
……… ยังไม่จบ
print on demand return
วันนี้คุณนกจากฟูจิซีร๊อกซ์ นัดเข้ามาคุยเรื่องเครื่องพิมพ์ดิจิทัลตัวใหม่ เมื่อสามปีที่แล้วได้เคยคุยกันอย่างละเอียด และผมได้เคยไปทดสอบพิมพ์งานถึงที่บริษัทฟูจิซีร๊อกซ์ ตอนนั้นไม่ค่อยรู้ประวัติของบริษัทนี้มากนัก คุณภาพงานก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ แต่ต้นทุนเครื่องและต้นทุนพิมพ์ต่อแผ่นแพงเหลือเกิน ในเวลานั้นคิดไม่ออกว่าจะไปหาลูกค้าได้อย่างไร
ปีนี้ วันนี้ คุณนกก็ยังคงเสนอเครื่องพิมพ์ให้เช่นเดิม แต่เครื่องรุ่นใหม่มีคุณภาพสูงขึ้น พิมพ์วัสดุได้หลากหลายขึ้น ที่น่าสนใจก็คือการพิมพ์สติ๊กเกอร์ และการพิมพ์แผ่นใส ส่วนการพิมพ์กระดาษอาร์ต กระดาษปอนด์ก็เป็นสิ่งที่ำทำได้ดีมาตั้งนานแล้ว ที่สำคัญกว่านั้นราคาขายเครื่องก็ถูกลง ราคาค่าพิมพ์ต่อแผ่นก็ถูกลง โครงสร้างการผ่อนก็เน้นให้ปีแรกผ่อนน้อยหน่อย ปีหลังๆจะมียอดผ่อนสูงขึ้น ดูเหมือนเป็นการจูงใจให้ไม่หมดกำลังใจผ่อนตั้งแต่ปีแรก
งานพิมพ์ตามสั่งหรือ print on demand เป็นงานพิมพ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้มากมาย หากจะเอาเครื่องนี้ไปผลิตงานขาย งานตัวนั้นควรจะเป็นงานที่มีราคาสูงและไม่สามารถพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์อ๊อฟเซ็ทมาตรฐานได้ เช่นการพิมพ์โบรชัวร์ที่มีฐานข้อมูลลูกค้าถูกพิมพ์ออกไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่ หรือข้อมูลใดๆที่ลูกค้าต้องการจริงๆ คำว่าฐานข้อมูลก็คือคำว่า database ซึ่งเป็นลักษณะข้อมูลที่ต้องอาศัยการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง ถึงจะสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลที่ต้องการได้ (ง่วงนอนมาก เดี๋ยวค่อยมาต่อ
candle video
print number
แบบฟอร์มมักจะมีขนาดตั้งแต่ A4 A5 และเล็กลงไปได้อีกนิดหน่อย ใบเสร็จรับเงินก็จะใหญ่ A4 ใบจดออเดอร์อาหารก็เล็กกว่า A5 ลงไปอีกเท่าตัว การพิมพ์งานขนาดเหล่านี้จะสามารถพิมพ์แล้วใส่ตัวเลขด้วยเครื่องพิมพ์ได้เลย เพราะมีตัวเลขสำเร็จรูปให้ใช้ แต่ถ้าไปเจองานขนาดใหญ่กว่า A4 เช่น ขนาด A3 จะต้องใช้เครื่องพิมพ์ออฟเซ็ทที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นเครื่องที่เกิดมาเพิื่อพิมพ์บิลอย่างเดียว ไม่สามารถใช้พิมพ์ใบปลิวสีสันสวยๆได้เลย เครื่องแบบนี้หายาก และน้อยคนที่จะมีไว้ครอบครอง
งานขนาดใหญ่ A3 และต้องพิมพ์ตัวเลขด้วย ผมเลยต้องใช้วิธีพิมพ์กระดาษ A3 ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาพิมพ์ตัวเลขด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ สิ่งที่จะต้องมีก็คือเครื่องปริ๊นเตอร์ขนาด A3 จะเป็น เลเซอร์ หรือ อิงค์เจ็ท ก็ได้
เล่มที่ xxx เลขที่ xxxxx ต้องใช้ซอร์ฟแวร์หลายตัวในการสร้างขึ้นมา ผมเริ่มจากใช้ excel สร้างตัวเลขทั้งหมดที่ต้องใช้ คือ เล่มที่ 1-30 และเลขที่ 0001-1500 ซึ่งก็จะได้ตัวเลขมาทั้งหมด 1500 บรรทัด แล้วย้ายตัวเลขเหล่านี้ไปไว้ใน access แล้วก็สร้างรายงานเอกสาร ให้พิมพ์ออกมาทีละใบ งงไหม?
แบบฟอร์มที่ลูกค้าต้องการจะเป็นเล่ม เล่มละ 50 หมายเลข หมายเลขหนึ่งๆจะมีเอกสาร 2 แผ่น เป็นต้นฉบับและสำเนา ดังนั้นงานพิมพ์ 30 เล่ม จะต้องใช้กระดาษทั้งหมด 3000 ใบ พิมพ์ตัวเลข 0001 – 1500 สองครั้งนั่นเอง
ลูกค้าสั่งแบบฟอร์ม 2 แบบ อย่างละ 30 เล่ม ยอดรวมก็คือ 60 เล่ม ต้องสั่งพิมพ์ตัวเลข 0001-1500 ทั้งหมด 4 เที่ยว ใช้เวลานานมาก เลยลองจับเวลาดู ถ้านับเวลาเฉพาะที่กระดาษเริ่มไหลออกจากปริ๊นเตอร์ แล้วรอให้ไหลครบ 50 แผ่น จะใช้เวลา 2 นาที 51.40 วินาที แต่ถ้านับเวลาที่ใช้จริงตั้งแต่การหยิบกระดาษป้อนเข้าเครื่อง ซึ่งจะต้องค่อยๆทำ ถ้าเรียงกระดาษไม่ดี เครื่องจะพิมพ์ไม่ตรง แล้วมานั่งสั่งพิมพ์หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วไปรอกระดาษไหลจนครบ 50 แผ่น จะใช้เวลาทั้งสิ้น 4 นาที 10.55 วินาที คิดแบบหยาบๆก็คือ 50 แผ่นใช้เวลา 5 นาที หรือเฉลี่ยนาทีละ 10 แผ่น ยอดกระดาษ 6000 ใบต้องใช้ 600 นาทีถึงจะเสร็จ เป็น 600 นาทีเต็มๆ ห้ามอู้ ห้ามกิน ห้ามเข้าห้องน้ำ ถ้าว่างจริงๆ ทำสองวันก็เสร็จหมด…….
polk audio r150
ได้ข่าวว่ามีลำโพงราคาถูก เลยตามไปดู ไปลองฟัง ราคาขายในเมืองนอก 100 ดอลล่า บางเว็บก็ 130 ดอลล่า ในไทยขาย 3450 บาท
polk audio เป็นยี่ห้อเครื่องเสียงที่ผลิตลำโพงขายมานานหลายสิบปี เป็นเครื่องเสียงที่ได้รับความน่าเชื่อถือว่าคุณภาพดี ของยี่ห้อนี้ไม่มีคำว่าหลอกกินเงิน ถ้าเราเชื่อว่าโซนี่ทำโทรทัศน์ดี โนเกียทำโทรศัพท์ดี polk ก็ทำลำโพงดีเช่นกัน
ลำโพงคู่นี้เป็นลำโพงที่ออกแบบมาให้เป็นลำโพงสำหรับโฮมเธียเตอร์ ซึ่งในอดีตนับสิบปี สินค้าที่เป็นเกรดโฮมเธียเตอร์จะคุณภาพต่ำกว่าเกรดเครื่องเสียงสำหรับการฟังเพลง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ถึงเป็นเช่นนั้น แต่ถ้าเป็น polk ที่อยู่ในวงการเครื่องเสียงมานาน ถ้าทำลำโพงออกมาแล้วฟังเพลงไม่เพราะ คงจะต้องโดนด่ากระฉ่อนวงการ ลำโพงของ polk รุ่นนี้เลยมีคุณภาพน่าสนใจ ในขณะที่ราคาขายค่อนข้างต่ำ
สิบปีที่แล้วลำโพงฟังเพลงแบบดีๆ แบบฟังแล้วอยากอุ้มกลับบ้านไม่เคยเจอราคาต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาท แต่ polk r150 ตัวนี้ทำได้ และทำได้ดีอย่างน่าประหลาดใจ เสียงจากลำโพงคู่นี้ถ้าให้ตั้งราคาขายเอง ผมคงจะเลือกติดราคาสัก 12000 เพราะน้ำเสียงมันมีคุณภาพระดับนั้น
เครื่องเสียงที่ให้คุณภาพดีสำหรับแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน แต่สำหรับผมเอง เครื่องเสียงที่ดีคือเครื่องที่เราอยากให้มันส่งเสียง นั่นคือเราไม่รำคาญ ฟังได้นาน อยากฟัง อยากเปิด ไม่เหมือนของคุณภาพต่ำหลายๆตัวที่ได้ยินตามห้าง ยิ่งเปิดยิ่งฟังยิ่งเห็นค่าของความเงียบ บางทีโลกอาจจะเปลี่ยนไปเยอะ ของคุณภาพดีมีกระจายอยู่ทั่วไป เพียงแต่ผมอาจจะไม่ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดเหมือนเมื่อก่อน
ลำโพงตัวนี้มีความไว 89dB ซึ่งเป็นความไวระดับปานกลาง เครื่องขยายเสียงทั่วไปสามารถเปิดมันได้อย่างไม่ยากเย็น ผมเอาไปเปิดฟังกับแอมป์หลอดกำลังขับ 3 วัตต์ ก็ให้เสียงฟังได้เต็มห้องทำงาน และได้คุณภาพที่พอใจ ใครมีเครื่องเสียงแบบมินิคอมโปอยากจะอัพเกรดลำโพงก็ลองตัวนี้ได้ เพราะไม่เคยเจอมินิคอมโปตัวไหนจะให้ลำโพงเสียงดีๆแบบนี้ ทางร้านเคยตั้งราคาขายไว้ระดับเจ็ดพันกว่าบาทแต่เอามาลดราคากันเหลือแค่ครึ่งเดียว ก็เลยต้องรีบซื้อไว้ซะหน่อย




