โน๊ตบุ๊คเกือบหาย เฉียดมากๆ

เมื่อวานไปกินข้าวที่ร้านสิบสามเหรียญสาขาราษฎร์บูรณะ แล้วเอาโน๊ตบุ๊คไปเปิดดูรูปด้วย ดูเสร็จก็เก็บวางไว้ใต้โต๊ะ กินเพลินๆ อากาศเย็นๆ บรรยากาศริมน้ำ ขากลับก็เช็คบิลเดินออกมาตัวเบา ไม่ได้ติดโน๊ตบุ๊คออกมาด้วย ส่งสาวเสร็จแล้วรู้สึกว่าอาจจะลืมอะไรบางอย่าง เลยจอดรถข้างทางแล้วไปเปิดท้ายรถดู โน๊ตบุ๊คไม่อยู่ท้ายรถ ใจหายเฮือกเลย โทรบอกเพื่อนให้ช่วยโทรถามที่สิบสามเหรียญให้หน่อย ระหว่างนั้นก็เหยียบเต็มที่เลยเพื่อกลับไปที่ร้านอาหาร คันเร่งโดนเหยียบมิด รถคนแก่กลายเป็นรถซิ่งไปในทันที ขับรถอันตรายมาก รถร่วมเรียกพ่อได้เลย เหยียบไปทำใจไป เรื่องลืมของเป็นเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตของทุกคน ใครๆก็ต้องมีเรื่องผิดพลาดหรือลืมของทั้งนั้น แต่โน๊ตบุ๊คตัวนี้มันแพง แถมค่าประกันเครื่องก็แพงอีกต่างหาก ประกันในที่นี้คือประกันเครื่องเสียหาย ไม่ได้ประกันเครื่องหาย ถ้าหายไปก็เคลมไม่ได้ ทำใจ ทำใจ แต่ก็โชคดีอยู่อย่างหนึ่งคือ ก๊อปปี้งานด่วนงานสำคัญไว้แล้ว ไม่งั้นความเสียหายคงไม่หยุดแค่เครื่องคอมเครื่องเดียว

อีกสองนาทีได้รับโทรศัพท์จากสาวสวยว่าทางร้านเก็บไว้ให้แล้ว รู้สึกดีมากๆ ต้องขอบคุณน้ำใจของเด็กเสริฟ จากรถซิ่งเหยียบมิดกลายเป็นรถเต่ากินลม ค่อยๆไปก็ได้ไม่รีบแล้ว คิดอยู่ในใจว่า จะทิปเด็กในร้านเท่าไหร่ดี.

Christmas at Chocolate shop

 

วันนี้ผมมีนัดไปพบสาวที่ร้านช็อคโกแลตแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพ  เป็นร้านขายแต่ช็อคโกแลต  มีหลายแบบให้เลือก  ต้นสังกัดอยู่ที่เบลเยี่ยม  บรรยากาศในร้านน่ารักน่านั่ง ผมเคยมานั่งหลายครั้งแล้วและมีความคิดว่าวันคริสมาสต์ได้มานั่งที่นี่ก็คงรู้สึกดี  แล้วก็ได้มานั่งในวันคริสมาสต์จริงๆ  เพียงแต่ว่ามาตอนกลางวัน  ถ้าเป็นตอนกลางคืนก็อาจจะได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่ง  แต่มากลางวันก็ดีอยู่อย่างหนึ่งคือถ่ายรูปค่อนข้างง่าย  ผมติดกล้องถ่ายภาพไปด้วย  เลือกใช้โหมดถ่ายภาพแบบปัญญาอ่อน  คือตั้งความไว 400 แล้วก็เลือกโปรแกรม P เพื่อให้กล้องหาค่ารูรับแสงและสปีดชัตเตอร์ให้อัตโนมัติ  เลนส์ใช้ 18-55is ที่มีระบบกันมือสั่น  ช่วยให้ภาพคมชัดแม้สภาพแสงจะไม่มากก็ตาม  ปล่อยให้เทคโนโลยีทำงานของมันไป  ส่วนคนถ่ายกับคนนั่งด้วยกันก็ปล่อยให้อารมณ์พาไป  ถ่ายภาพต้องสนุก  ลืมคนในร้านไปสักชั่วขณะ  ภาพที่ได้ก็จะเป็นภาพที่น่าจดจำ

ปาโกะ-ป๋วย ไปถ่ายรูปที่นากาย่า

จริงๆผมควรจะได้ไปด้วย  แต่ติดที่ต้องเฝ้าร้าน  กำหนดจองรีสอร์ทก็ไม่ได้ยกเลิก  เขาเลยไปถ่ายภาพกันสนุกสนาน ปล่อยให้ผมทำงานแห้งเหี่ยวอยู่กรุงเทพฯ   มีภาพเบื้้องหลังเป็นวิดีโอกลับมาให้ดูเพียบเลย  ปาโกะคงจะเอาไปตัดต่อเตรียมฉายในงานแต่ง   ผมเลือกมาบางส่วนเก็บไว้ดู

ยุ่งเหยิงจริงๆเลย ชีวิตปลายปี

ไม่รู้ว่าไปโชคดีอะไรมา ช่วงที่เศรษฐกิจบ้านเมืองกำลังดิ่งตัวแย่ลง  โรงงานปิดตัว คนงานโดนลอยแพ  แต่โรงพิมพ์กลับมีงานล้นเต็มไปหมด  ทำงานไม่ทัน  ยิ่งเจอลูกค้าหลายรายที่ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า  อยู่ๆก็อยากทำปฏิทินแจก  คิดได้วันที่ยี่สิบ  จะแจกก่อนสามสิบ  ยังไม่มีอาร์ตเวิร์ค  เหนื่อยเลย  

บางรายอยากได้ของวันทีึ่ 24  คุยกันอย่างดีตั้งแต่วันที่ 20 ว่าจะส่งข้อมูลทุกอย่างให้  สุดท้าย ข้อมูลมาช้าแถมมีปัญหา  ทำงานมาไม่เรียบร้อย  เดือดร้อนผมต้องมานั่งแก้ไขอาร์ตเวิร์คให้  ซ้ำยังจะมีการเปลี่ยนข้อมูลอีก  ทุกอย่างช้าไปกว่ากำหนดสองวัน  แต่จะเอาของวันเดิม  ลูกค้าแบบนี้ไม่รู้จะสวดมนต์บทไหนให้ดี  (แต่ผมสวดไม่เป็นหรอก  ด่าเป็นอย่างเดียว)

งานออแกไนซ์ที่ทำกับเพื่อนต้องเข้าไปคุยกับว่าที่ลูกค้า  ไปนำเสนอข้อมูลและงบประมาณ  เตรียมข้อมูลกันขันแข็ง  วันที่นัดกับลูกค้าผมดันป่วย  แต่ก็พยายามไป  ออกจากบ้านแต่เช้ากะว่าไปถึงออฟฟิศลูกค้าเร็วๆหน่อยจะไปหาของกิน  ขับรถไปที่ตึก SM Tower ซึ่งอยู่ข้างๆโรงพยาบาลพยาไท2  ก็ต้องไปเจอกับสภาพการจอดรถที่วิกฤตมากๆ  รถเยอะที่น้อย  ที่จองก็ห้ามจอด  ต้องวนรถขึ้นไปถึงชั้นสิบ  ชั้นสิบจอดกันไม่เป็นระเบียบ  จอดกันขวางเลน  ขับเข้าไปได้ แต่ต้องถอยออก  วนลงมาข้างล่างก็ยังไม่มีที่จอด สุดท้ายก็เลยต้องออกจากตึกไปโดยไม่ได้จอด  เสียเวลาไป 30 นาที  โทรบอกเพื่อนว่าผมหมดความอดทนแล้ว  แต่เพื่อนก็ยังอุตส่าห์บอกให้ทน  สุดท้ายผมเลยเอารถไปจอดฝั่งตรงกันข้าม  ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ช่อง 5  ผมบอกกับยามว่าผมจะไปออกรายการข่าว  ยามเลยให้เข้าไปจอดรถ  พอได้จอดก็รีบลงมาแล้วมายืนรอเพื่อนที่กำลังเดินทางไปหงุดหงิดบนตึกต่อจากผม  ผมขึ้นรถเพื่อนแล้วก็วนแบบที่เคยวน  จนวนลงมาเหมือนเดิม  แต่รอบนี้โชคดีที่มีคนถอยรถออก 1 คัน  เลยได้จอด  ถ้ามาเร็วกว่านี้  หรือมาช้ากว่านี้ก็พลาดแล้ว ……   สงสัยเพื่อนทำบุญมาเยอะกว่า

คุยกับลูกค้าเสร็จผมแยกกับเพื่อนเพื่อรีบกลับมาทำงานต่อ  ไปที่จอดรถของช่อง5  แล้วสตาร์ท  เสียง แชะ แชะ แชะ  โอพระเจ้า  สตาร์ทไม่ติด  อาการเหมือนแบตหมด  ผมรู้สึกว่าผมกำลังถูกลงโทษ  ข้อหาขโมยที่จอดรถโดยไม่ได้มีธุระกับที่แห่งนั้นจริงๆ  ห้าวินาทีผ่านไป  ผมรู้ว่ารถแบตหมดเพราะเปิดไฟหน้ารถทิ้งไว้  ผมเปิดไฟหน้ารถเพราะว่าบนตึกนรกที่จอดรถยากๆนั้นค่อนข้างมืด และรถสวนกันอันตราย เลยต้องเปิดไฟหน้า  ทุกคันก็เปิดไฟหน้า  แต่ตอนผมขับออกจากตึกผมลืมปิดไฟ  สิบวินาทีผ่านไป  ผมเอื้อมมือไปปิดไฟ  แล้วหายใจอีกเฮือก  ขอให้ติดเถอะวะ   แล้วสตาร์ทอีกครั้ง  โชคดี  แบตเตอรี่ยังไม่หมดเกลี้ยง พอปิดไฟหน้ารถ  ก็มีแรงสตาร์ท  เลยได้ขับรถออกมาโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากยามและรถคันข้้างๆ  ไม่เช่นนั้นคงต้องโดนถามว่ามาทำไม  ติดต่อกับใคร  แล้วความคงแตก  หวังว่าการติดต่อธุรกิจครั้งนี้จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี  ไม่งั้นจะกากบาทตึก SM ว่าเป็นที่ซึ่งไม่ควรไปเหยียบอีกเลยในชาตินี้

บ่ายๆกลับมาโรงพิมพ์มีงานต้องสั่งการ  ทำเพลท ตรวจอาร์ตเวิร์คหลายตัวมากๆ  และมีของต้องส่งอีกอย่างน้อย 4 ที่ ซึ่งปกติผมจะไปส่งเองทั้งหมด แต่วันนี้มันไม่ทันจริงๆ  เลยต้องให้มอเตอร์ไซด์ไป 2 งาน  รถรับจ้างไปอีกที่หนึ่งและผมไปอีกที่หนึ่งถึงจะทัน  ยอดรายรับเดือนนี้คงทะลุ ทำสถิติ new high แน่ๆเลย

ตอนเย็นๆเริ่มแสบจมูก เร่ิมไข้ขึ้น  ทรมาน  อยากนอน  แต่ยังกินข้าวได้ปกติเพราะหิวมาก  พรุ่งนี้มีเรื่องปวดหัวรออยู่อีกหลายเรื่อง  เตรียมคำตอบไว้แล้ว  อะไรจะแย่มันก็แย่ไปเรื่อยๆจริงๆ  มันเป็นไปตามกฏของเมอฟี่

ฟ้อนต์ประหยัดหมึก ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่เคยคิดว่าจะมี

ไปอ่านข่าวตามเว็บต่างๆจนเจอเรื่องดีๆเรื่องหนึ่ง  ฟ้อนต์สำหรับการใช้งานที่ออกแบบให้ประหยัดหมึก  พอเห็นแล้วร้องอ๋อทันที  ทำไมความคิดดีๆแบบนี้เราถึงคิดไม่ออก  คนทั้งโลกก็คิดไม่ออก ทั้งๆที่เทคนิคแบบนี้ก็เป็นเรื่องใกล้ตัว  สมัยเด็กๆตอนที่หัดสร้างหุ่นยนต์ไปวิ่งแข่ง  มีกติการะบุว่าน้ำหนักของหุ่นต้องไม่เกินที่กำหนดไว้  ตอนสร้างหุ่นก็ทำไปชั่งไป  ตอนสุดท้ายพอหุ่นเสร็จก็น้ำหนักเกินกันทุกทีม  การเจาะรูที่โครงสร้างให้พรุนเป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้  แล้วผลการลดน้ำหนักด้วยการเจาะรูก็ช่วยให้โครงสร้างเบาขึ้นจนผ่านข้อกำหนดเบื้องต้น  สิบกว่าปีผ่านมา  พอมาเห็นตัวหนังสือเจาะรูเลยถูกจริต  ชอบมากๆกับความคิดสร้างสรรค์ครั้งนี้ของมนุษย์เรา  ตามไปดูต่อและโหลดมาใช้ได้ตามใจเลยครับ

http://www.ecofont.eu/look_at_ecofont_en.html

ข้อมูลเตรียมถ่ายถ่ายงานแต่งงาน

เนื่องจากมีคนถามเรื่องภ่ายภาพ เรื่องสถานที่ และเรื่องชุด เลยหารวบรวมเอาไว้เป็นข้อมูล

เบอร์สวนรถไฟ   02-537-9221   กรณีถ่ายชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว  ค่าสถานที่สำหรับstudio  จะคิด 3000 บาท  ถ้าเป็นบ่าวสาวติดต่อเองแล้วนำช่างภาพเข้าไปเอง  จะคิด 1500 บาทค่ะ  แต่ต้องทำหนังสือและจ่ายเงินล่วงหน้าก่อนวันที่จะไปถ่ายภาพ

 

เช่าชุดแต่งงาน  เอาชุดลงทะเลได้แนะนำ

ร้าน fanony  02-434-8206  ปิ่นเกล้า  ถูกสุด 1500

อีกร้าน  unibride  เนี่ย 02-379 9283-4  อยู่เสรีไทย

นิทานดอกไม้

ตอนเที่ยงวันผมกินข้าวกับสาวคนหนึ่งแล้วก็ต่อด้วยกาแฟเย็นพร้อมโดนัทเสร็จแล้วก็แยกย้าย  ผมเดินกลับมาใหม่ที่ร้านกาแฟอีกครั้งเพื่อซื้อกาแฟเย็นอีกแก้วหนึ่งด้วยบัตรส่วนลด  เพราะตอนที่ซื้อกินด้วยกันสองคน  ผมลืมบัตรสมาชิกไว้ในรถ  ทำให้ผมต้องจ่ายราคาเต็ม  ผมลังเลอยู่ที่รถพักหนึ่งแล้วก็เดินมาซื้อกาแฟอีกรอบ  ผมควรจะได้สิ่งที่ผมควรจะได้  คงเป็นอาการโรคจิตเล็กๆ  แต่ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่  เพราะกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ผมดื่มประจำอยู่แล้ว  วันนี้จะซื้อแก้วที่สองก็ไม่เห็นแปลก  แต่อาจจะแปลกตรงที่พนักงานในร้านกาแฟยิ้มทักผมอีกครั้งหนึ่ง  และคราวนี้ผมได้ส่วนลดตามที่ผมควรจะได้แล้ว

 

หันหลังเดินออกมา  ผมผ่านร้านดอกไม้  เลยแวะยืนดู  ปกติผมจะยืนดูเครื่องเสียง เครื่องดนตรี กล้องถ่ายรูป  แต่คราวนี้ผมดูดอกไม้  มีดอกไม้หลายประเภท  บางดอกสวยมากจนเหมือนของปลอม  บางดอกเป็นของปลอมที่ดูแล้วยังไงก็ไม่สวย  ผมดูดอกกุหลาบกลุ่มหนึ่งเป็นดอกเล็กๆอยู่ในห่อใสๆ  กลุ่มนึงมีประมาณหกหรือเจ็ดดอก  ขายราคาไม่แพง  ถ้าผมหิ้วดอกไม้กำนี้ไปฝากสาวสักคน เขาคงจะคิดว่าผมสั่งซื้อตามสี่แยกแน่ๆ  เลยมองผ่านไป  เลยไปถึงดอกไม้ในตู้ปรับอากาศ  ดูหน้าตาแล้วราคาคงแพงกว่ากันมาก  ผมนึกถึงหนังเรื่องน๊อตติ้งฮิล  พระเอกถือดอกไม้ไปฝากนางเอกโดยไม่ต้องเป็นโอกาสอะไรพิเศษ  เขาแค่รู้สึกประทับใจในใครสักคนเขาก็ถือดอกไม้ไปฝากได้แล้ว  ผมรู้สึกว่าเป็นเป็นความรู้สึกที่ดี ใส  ผมก็เลยรู้สึกว่าผมอยากซื้อดอกไม้ให้สาวสักคน  คนที่ผมรู้สึกดีด้วย  ผมสั่งซื้อไป แต่ผมไม่สามารถจะอธิบายได้ว่าดอกไม้ในเรื่องน๊อตติ้งฮิลหน้าตาเป็นอย่างไร  ผมจำไม่ได้แม่นและผมไม่รู้จักชื่อดอกไม้  เลยได้ดอกไม้ที่ไม่ค่อยตรงใจนัก  แต่ก็ตรงความตั้งใจคือ  มีดอกไม้ไปฝากคนพิเศษ

 

ออกจากห้างด้วยความเคยชินผมเลี้ยวรถกลับบ้าน  ตัดสินใจกลับไปนั่งทำงานเสียก่อน  รอเลิกงานแล้วค่อยแวะไปให้ดีกว่า  นั่งทำงานไปเพลินๆจนลืมดอกไม้ว่ายังอยู่ในรถ  พอรู้สึกตัวอีกทีก็เกือบเย็นแล้ว  ผมคิดอยู่สักพักก็เลยตัดสินใจออกไปส่งดอกไม้ดีกว่า  ผมไม่อยากให้ดอกไม้เหี่ยวแห้งไปก่อนที่จะถึงมือคนรับ  ระหว่างทางก็คิดไปเรื่อยเปื่อยว่าจะเดินเอาเข้าไปให้ยังไงดี  ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าทำเซอร์ไพร้ซ์ดีกว่า  เดี๋ยวเอาไปวางไว้หน้ารถ  ไปถึงที่จอดรถก็เลยเดินหา  ปรากฏว่าหารถไม่เจอ  เลยเดินดูด้านนอกถึงจะรู้ว่ารถอยู่ที่ไหน  ผมแวะไปเอาดอกไม้ที่รถตัวเองแล้วก็เตรียมตัวจะเอาไปวาง  เลือกรูปถ่ายของเจ้าของมาติดไว้กับดอกไม้ด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าคนอื่นๆที่เห็นดอกไม้จะไม่หยิบไปเฉยๆ  ทำให้รู้ว่าดอกไม้นี้มีเจ้าของ  คิดๆๆๆๆๆ   สุดท้ายก็ไม่เอาดีกว่า  วางไว้บนรถ  ถ้ามีคนซนหยิบไปเฉยๆก็แย่น่ะสิ  เลยตัดสินใจเอาเข้าไปให้ด้วยตัวเอง  พอเดินเข้าไปที่ตัวตึกก็กลับรู้สึกตื่นเต้นไม่อยากเอาไปให้ซึ่งๆหน้า  ยืนคิดอยู่พักนึง  เลยเอาไปฝากไว้ที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์  ฝากพนักงานว่าให้เอาไปส่งใคร  แล้วผมก็เดินออกมา  

 

ภาระกิจดอกไม้เรียบร้อย  เจ้าของได้รับ  และรู้ว่าใครส่งมาให้  มีคำถามกลับมาว่าโอกาสอะไร  ผมก็ไม่รู้ว่าจะอ้างโอกาสอะไร  บอกไปเพียงแค่  ผมอยากให้  ในใจผมรู้สึกว่าการให้ดอกไม้กับใครสักคนมันเป็นการบอกว่าผมให้ความสำคัญกับคุณนะ  คุณมีความหมายต่อผม  และ ผมจะไม่รอโอกาส  ผมจะไม่รอให้เกิดความผิดแล้วค่อยเอาดอกไม้มาง้อ  ผมอยากจะให้มันแทนความรู้สึกของปัจจุบัน  ผมทำสิ่งที่อยากทำ  ถ้าผมรอโอกาส  รอเทศกาลผมอาจจะไม่ได้ใช้ก็ได้  ความรักของผมอาจไม่ยืนยาวไปถึงวันแห่งความทรงจำวันนั้น  ผมอาจจะเผลอทำผิดพลาดแล้วไม่มีโอกาสง้อ  ผมอาจจะไม่ได้รับโอกาสให้แก้ตัว  ผมเลยไม่เคยคิดว่าผมจะได้ใช้ดอกไม้ในวันที่ยังมาไม่ถึง  มีคนช่างคิดเคยบอกไว้ว่า  ความรักมันไม่ได้สำคัญว่าคุณจะได้ครอบครองหรือไม่  แต่สำคัญตรงที่ว่าในช่วงเวลาที่มีกันอยู่คุณได้ทำอะไรดีๆต่อกันหรือเปล่า  

 

 

ความรักของผมเป็นแบบนี้  อย่าคิดว่าผมจะเป็นแบบนี้แค่สามเดือนหกเดือน  อย่าคิดว่าการที่ผมไม่เคยหงุดหงิดใส่หรือตะคอกเสียงดังมันจะไม่ใช่ตัวจริงของผม  อย่าคิดว่าการที่ผมยอมทำอะไรให้ใครสักคนเป็นเพราะผมไม่ใช่ตัวของตัวเอง  อย่าคิดว่าอีกด้านหนึ่งของผมจะเป็นด้านที่เห็นแก่ตัว  ผมไม่ใช่ใครวิเศษมาจากไหน แต่ผมแค่ไม่ใช่คนแบบที่คุณเคยเจอมาก่อนเท่านั้นเอง

งานเยอะ งานเยอะ งานเยอะ

สถานการณ์บ้านเมืองดูสงบขึ้นเมื่อเลิกการชุมนุม  รถติดมากขึ้นเป็นบางแห่ง น้ำมันถูกลง  ลูกค้าหลายรายเริ่มสั่งของอีกครั้ง  งานที่ติดขัดก็เริ่มไหลได้  งาน Event ที่รับไว้ก็กำลังจะกำหนดวันจัดงานกันใหม่  งานสายการบินก็สั่งิพิมพ์ของที่ค้างไว้ระหว่างการชุมนุม  หลายอย่างค่อยๆฟื้นตัว  แต่ว่า เศรษฐกิจโดยรวมไม่รู้เป็นยังไง  ฟังคนเก่งๆเขาวิเคราะห์(ปนเดา)  เขาว่ากันว่ายังไม่ดีขึ้นแต่จะแย่ลงไปอีก  แล้วจะทำยังไงล่ะเนี่ย?

เดินเล่นแถวเซ็นทรัลเวิร์ล ดูไฟ ถ่ายรูป

เพื่อนกลุ่มช่างภาพเป็นคนชวนกันไป  พร้อมด้วยสาวๆอีก 1 แพ็ค  ไปถึงกินกันอิ่ม หมดแรงเดิน  แล้วก็พยายามเดินกันอยู่ประมาณชั่วโมงนึง  เห็นว่าดึกแล้ว หมดมุขแล้วจึงแยกย้ายกันกลับ

ถ่ายภาพก่อนแต่งงาน ปาโกะกับน้องป๋วย

ต้นเดือนธันวาคมได้รับโทรศัพท์จากปาโกะว่าจะแต่งงาน กลางเดือนก็เลยนัดถ่ายภาพกัน เริ่มต้นโปรแกรมกันที่รีสอร์ทในราชบุรี แต่ว่าเกิดเหตุติดขัดนิดหน่อย ทำให้ผมไม่สามารถจะไปค้างคืนเพื่อถ่ายภาพได้ โปรแกรมเลยต้องเลื่อนมาเป็นถ่ายในกรุงเทพฯแทน หนึ่งวันเต็มๆในสวนรถไฟ ถ่ายไปสี่ร้อยกว่ารูป มีรูปสวยพอใช้งานได้ งานหมั้นและแต่งจะจัดขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้า ผมช่วยพิมพ์การ์ด ทำของชำร่วย ถ่ายภาพเตรียมงาน และถ่ายภาพในงานหมั้น ส่วนวันจริงเดี๋ยวจ้างเพื่อนช่างภาพอีกคนมาช่วยรับหน้าที่ไป

วันศุกร์ว่างเปล่า ทำไมเหมือนวันหยุดเลยหนอ

วันนี้วันศุกร์ ดูเงียบๆ  เป็นวันศุกร์ที่แปลกมาก  ทุกทีจะต้องไปส่งของ  ไปบางบิล ไปเก็บเช็ค  แต่ทำไมวันนี้กลายเป็นว่าเงียบๆผิดปกติ  หรือว่าลืมทำอะไรไป…..

 

รับงานถ่ายภาพคู่เตรียมไว้โชว์ในงานแต่งเอาไว้  นัดไปถ่ายภาพกันวันที่ 17-18 ที่รีสอร์ทของเพื่อนในจังหวัดราชบุรี  แต่ว่าเมื่อเช้านี้เพิ่งรู้ว่าน้องชายจะไม่อยู่ตลอดสัปดาห์หน้าเพราะจะไปดูงานต่างประเทศ  ผมก็เลยต้องเฝ้า  การดูงานรอบนี้ทำให้ผมต้องยกเลิกทริปถ่ายภาพไปสองทริปเลย  ทริปแรกก็ที่ราชบุรี  ทริปที่สอง วันที่ 20 ธันวาคม 2551 ที่เกาะล้าน  เป็นทริปวันเดียวกลับของกลุ่มถ่ายภาพ  เกาะล้านหน้าตาเป็นยังไงผมก็ยังไม่เคยไป  คิดว่าอยู่ใกล้ๆ  ตอนที่ได้รู้ว่ามีทริปนี้ก็รับปากไปแล้วว่าจะไป  แต่ก็ต้องแห้วตอนที่รู้ว่าน้องชายจะไม่อยู่หลายวัน  แย่เลย  อดเที่ยวอีกแล้ว

 

เมื่อวานนี้  ขับรถยังกับคนบ้า  ส่งของตอนเที่ยงที่อโศก  กลับบ้าน แล้วก็ไปส่งของที่ตลิ่งชันงานพิมพ์ด่วนลูกค้าต้องส่งต่อไปใช้งานที่ราชบุรี  จากนั้นก็วิ่งยาวไปไบเทคเพื่อส่งงานโปสการ์ด  วันเดียวขับรถร้อยกว่ากิโล  เหนื่อยเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ง่วงนอนเร็วกว่าปกติ  ตอนกลางคืนแวะไปนอนนวดมา  เพื่อนโทรมาคุยตอนเริ่มนวด  โทรเข้ามาทีละสามคน  กว่าจะคุยธุระเสร็จก็เกือบชั่วโมง  นวดขา นวดตัว สบายดี แต่ปวดหัวและหูร้อนเพราะเหน็บโทรศัพท์นานเกินไป

กล้องดิจิทัลหน้าตาดี

กล้องพานาโซนิครุ่น LX3 ใช้เลนส์ leica ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ไว้ใจได้เรื่องคุณภาพ  การออกแบบก็ดูคลาสิค พร้อม accessory ที่น่ารักน่าใช้  ฟังข่าวลือมาว่าใช้ถ่ายภาพขาวดำได้สวยโดนใจคนเล่นกล้องอย่างมาก  ไปโหลดภาพตัวอย่างมาดูแล้วก็รู้สึกว่าน่าสนจริงๆ  เลนส์ที่ติดกล้องมาเป็นเลนส์ซูม 24-60 มม.  นับว่ามุมกว้างมาก  เหมาะกับการพกเพื่อท่องเที่ยวและเก็บภาพเพลินๆดี  ไว้ถ้าเศษตังค์เหลือจะซื้อมาใช้นะ  น้องพานา……